เทียบชัดๆ 4 รอบ TCAS ต่างกันยังไง? เลือกสู้สนามไหนให้ตรงกับสไตล์เราที่สุด!

Last updated: 23 ก.ค. 2568  |  81 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทียบชัดๆ 4 รอบ TCAS ต่างกันยังไง? เลือกสู้สนามไหนให้ตรงกับสไตล์เราที่สุด!

เทียบชัดๆ 4 รอบ TCAS ต่างกันยังไง? เลือกสู้สนามไหนให้ตรงกับสไตล์เราที่สุด!

หลังจากที่เรารู้จักหน้าตาของทั้ง 4 รอบกันไปแล้วในบทความก่อนๆ วันนี้พี่จะพาทุกคนมาสวมแว่นขยาย ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ ว่า "แล้วไอ้ 4 รอบนี้มันต่างกันยังไงกันแน่?"

พี่บอกเลยว่าการเลือกรอบก็เหมือนกับการเลือกอาวุธเข้าสนามรบนะน้อง บางคนถนัดดาบ (Portfolio), บางคนถนัดธนู (Quota), บางคนเก่งการวางแผนกองทัพใหญ่ (Admission) การเลือกสู้ในสนามที่ตัวเองถนัด ย่อมมีโอกาสชนะมากกว่า!

มาดูกันเลยว่าเราเหมาะกับสนามไหน ผ่านตารางเทียบสุดเทพอันนี้!

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง 4 รอบ TCAS

ประเด็น (Issue)รอบ 1: Portfolioรอบ 2: Quota รอบ 3: Admissionรอบ 4: Direct Admission
คอนเซ็ปต์หลักวัดความโดดเด่น (โชว์ของที่มี)วัดคุณสมบัติเฉพาะ (ตรงตามเกณฑ์)วัดความรู้ (สู้ด้วยคะแนนสอบ)วัดความไว+ดวง (ใครเร็วกว่าได้ก่อน)
อาวุธหลักที่ใช้แฟ้มผลงาน (Portfolio)คุณสมบัติ + คะแนนสอบส่วนกลางคะแนนสอบส่วนกลางล้วนๆแล้วแต่มหา'ลัยกำหนด
ช่วงเวลาเตรียมตัวระยะยาว (ม.4-ม.6)ระยะกลาง-ยาว (เก็บคุณสมบัติ+เตรียมสอบ)ระยะกลาง (ม.5-ม.6 เน้นตะลุยโจทย์)ระยะสั้น (ตามข่าวรายวัน)
ระดับการแข่งขันสูงในกลุ่มเฉพาะ (แข่งกับคนที่มีความฝันเดียวกัน)สูงในกลุ่มเฉพาะ (แข่งกับคนที่มีคุณสมบัติเดียวกัน)สูงที่สุด (แข่งกับคนทั้งประเทศ)สูงมาก (เพราะที่นั่งน้อยมาก)
Mindset ที่ต้องมีนักสะสม / นักสร้างสรรค์นักสำรวจ / นักฉวยโอกาสนักวางแผน / นักสู้นักข่าว / นักเสี่ยงโชค
เหมาะกับใครที่สุดคนมีของ, เป้าหมายชัดเจนคนมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์เป๊ะๆทุกคน โดยเฉพาะสายวิชาการคนที่ไม่ยอมแพ้และติดตามข่าวสารตลอด

 

แล้วเราจะเลือกรอบไหนดี? ลองตอบคำถามนี้ดู
พอเห็นตารางแล้วน่าจะชัดขึ้นเนอะ! ทีนี้ลองมาทำแบบทดสอบง่ายๆ เพื่อหา "สนามรบหลัก" ของตัวเองกัน

  1. "ฉันมีผลงานที่โดดเด่นและเกี่ยวข้องกับคณะที่อยากเข้ามากๆ ใช่หรือไม่?"
    • ถ้าใช่: ทุ่มสุดตัวให้ รอบที่ 1: Portfolio เลย! นี่คือโอกาสทองของน้อง อย่าปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาด
    • ถ้าไม่ใช่: ไม่เป็นไร ไปดูคำถามต่อไป...
  2. "ฉันมีคุณสมบัติพิเศษตรงตามโควตาของมหาวิทยาลัย (เช่น อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด, เป็นนักกีฬา, โรงเรียนอยู่ในเครือข่าย) ใช่หรือไม่?"
    • ถ้าใช่: เตรียมตัวสำหรับ รอบที่ 2: Quota เลย! ไปเช็กคะแนนสอบที่ต้องใช้ให้ดี แล้วลุย!
    • ถ้าไม่ใช่: ยังมีโอกาส ไปดูข้อสุดท้าย...
  3. "ฉันอาจจะไม่มีผลงานหรือคุณสมบัติพิเศษ แต่เป็นสายอ่านหนังสือสอบ ทำข้อสอบเก่ง และพร้อมจะวัดกันที่คะแนนใช่หรือไม่?"
    • ถ้าใช่: รอบที่ 3: Admission คือสนามหลักของน้อง! เริ่มวางแผนอ่านหนังสือและตะลุยโจทย์ตั้งแต่วันนี้ นี่คือรอบที่แฟร์ที่สุดสำหรับสายวิชาการ
  4. ถ้ายังไม่เข้าข่ายทั้งหมด หรือพลาดมาจากรอบก่อนๆ:
    • รอบที่ 4: Direct Admission คือความหวังสุดท้ายของน้อง ที่ต้องอาศัยความเร็วในการติดตามข่าวสารและความกล้าที่จะสมัครทันทีที่โอกาสมาถึง

บทสรุป

การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละรอบ ไม่ใช่แค่ทำให้น้องเลือกเส้นทางที่ถูก แต่ยังช่วยให้น้อง "จัดลำดับความสำคัญ" และ "บริหารเวลา" ได้ดีขึ้นด้วย

เช่น ถ้าน้องรู้ตัวว่าเป็นสายวิชาการ ก็อาจจะไม่ต้องเสียเวลาทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องมากนัก แต่ไปทุ่มเทกับการอ่านหนังสือเพื่อทำคะแนนในรอบ 3 ให้ดีที่สุด ในทางกลับกัน ถ้าน้องตั้งใจจะยื่นรอบพอร์ต ก็ต้องขยันทำกิจกรรมและเก็บผลงานตั้งแต่เนิ่นๆ

จำไว้นะน้อง TCAS คือมาราธอน ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร ใครวางแผนดีกว่า คนนั้นก็ได้เปรียบ!

เมื่อรู้ความแตกต่างแล้ว บทความหน้าเราจะไปดูกันว่า "ข้อดี-ข้อเสีย" ของแต่ละรอบมีอะไรบ้าง เพื่อการตัดสินใจที่เฉียบคมยิ่งขึ้นค่ะ!

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้