TCAS มีกี่รอบ? เจาะลึกครบทั้ง 4 รอบ ใครเหมาะกับรอบไหน ต้องใช้อะไรบ้าง!

TCAS มีกี่รอบ? เจาะลึกครบทั้ง 4 รอบ ใครเหมาะกับรอบไหน ต้องใช้อะไรบ้าง!

เอาล่ะ! พอเรารู้จักหน้าตาและที่มาที่ไปของ TCAS กันมาพอสมควรแล้ว คำถามยอดฮิตที่ตามมาติดๆ ก็คือ "สรุปแล้วมันมีกี่รอบกันแน่? แล้วแต่ละรอบต้องทำอะไรบ้าง?"

ไม่ต้องห่วงเลยน้อง วันนี้พี่จะรับบทเป็นไกด์ทัวร์กิตติมศักดิ์ พาน้องๆ เดินดูทุกซอกทุกมุมของ "สนามสอบ TCAS" ทั้ง 4 ด่าน บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ น้องจะเห็นภาพรวมทั้งหมดและเริ่มมองเห็นเส้นทางของตัวเองได้ทันที!

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปทัวร์กันเลย!

รอบที่ 1: Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน) - #รอบเด็กมีของ
ประตูบานแรกที่เปิดรับน้องๆ ก่อนใครเพื่อน คือรอบสำหรับโชว์ความสามารถและผลงานแบบเน้นๆ

• รอบนี้คืออะไร? เป็นรอบที่คัดเลือกโดย ไม่ใช้คะแนนสอบข้อเขียน ใดๆ ทั้งสิ้น! มหาวิทยาลัยจะดูจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) 10 หน้า ที่น้องๆ รวบรวมผลงานเด่นๆ กิจกรรมเจ๋งๆ และเกียรติบัตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะ/สาขาที่อยากเข้า แล้วตัดสินใจเรียกไปสอบสัมภาษณ์
  
• เหมาะกับใครเป็นพิเศษ?
  
  • น้องๆ ที่มีผลงานโดดเด่น เช่น แข่งขันวิชาการระดับชาติ, ได้รางวัลประกวดต่างๆ
    
  • น้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมหรือค่ายที่เกี่ยวข้องกับคณะในฝันอย่างสม่ำเสมอ
    
  • น้องๆ ที่ค้นพบตัวเองเร็วและมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากเข้าคณะอะไร
    
• ใช้อะไรในการยื่น?
  
  1. Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน): ไม่เกิน 10 หน้า (ไม่รวมปก)
     
  2. ผลการเรียน (GPAX): ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่แต่ละโครงการกำหนด
     
  3. การสอบสัมภาษณ์: ด่านสุดท้ายสำหรับคนที่ผ่านการคัดเลือกจากพอร์ต
     
• พี่แนะแนว: "ถ้าตั้งใจจะเข้ารอบนี้ ต้องเริ่มเก็บผลงานและเกียรติบัตรต่างๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะ (ม.4-ม.5 คือช่วงเวลาทอง!) ทำกิจกรรมอะไร ถ่ายรูปเก็บไว้ให้ดี เพราะมันคือวัตถุดิบสำคัญในการปั้นพอร์ตของเราให้ปัง!"

รอบที่ 2: Quota (โควตา) - #รอบเด็กพื้นที่และผู้มีความสามารถพิเศษ
ประตูบานที่สองสำหรับน้องๆ ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ

• รอบนี้คืออะไร? เป็นรอบที่ให้สิทธิ์กับนักเรียนในกลุ่มเฉพาะ เช่น โควตานักเรียนในพื้นที่ภาคเหนือ/ภาคอีสาน, โควตาโรงเรียนในเครือข่าย, โควตานักกีฬา, โควตาผู้มีความสามารถด้านดนตรี/ศิลปะ เป็นต้น
  
• เหมาะกับใครเป็นพิเศษ?
  
  • น้องๆ ที่มีภูมิลำเนาหรือเรียนอยู่ในพื้นที่ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
    
  • น้องๆ ที่มีความสามารถพิเศษจริงๆ เช่น เป็นนักกีฬาทีมโรงเรียน/ทีมชาติ
    
  • น้องๆ ที่เรียนในโรงเรียนที่มีข้อตกลง (MOU) กับทางมหาวิทยาลัย
    
• ใช้อะไรในการยื่น?
  1. คะแนนสอบส่วนกลาง: ส่วนใหญ่จะใช้คะแนน TGAT/TPAT หรือ A-Level
     
  2. คุณสมบัติเฉพาะ: เอกสารยืนยันคุณสมบัติต่างๆ เช่น ทะเบียนบ้าน, แฟ้มผลงานด้านกีฬา/ดนตรี
     
  3. ผลการเรียน (GPAX)
     
• พี่แนะแนว: "เช็ก 'ระเบียบการ' ของมหาวิทยาลัยให้ดีที่สุด! โควตาแต่ละที่เงื่อนไขไม่เหมือนกัน ต้องอ่านให้ละเอียดว่าเราเข้าเกณฑ์ไหม อย่าสมัครไปทั้งที่ยังไม่แน่ใจนะน้อง!"
  

รอบที่ 3: Admission (แอดมิชชัน) - #สนามรบกลาง
มาถึงประตูบานที่ใหญ่ที่สุด! ที่นั่งเยอะที่สุด และการแข่งขันดุเดือดที่สุด!

• รอบนี้คืออะไร? เป็นรอบที่เปิดกว้างสำหรับนักเรียนทุกคนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ม.6, เด็กซิ่ว หรือสายอาชีพ ให้มาสู้กันด้วยคะแนนสอบส่วนกลางล้วนๆ โดยน้องๆ สามารถเลือกคณะที่อยากเข้าได้สูงสุดถึง 10 อันดับ
  
• เหมาะกับใครเป็นพิเศษ?
  
  • เหมาะสำหรับ ทุกคน ที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะน้องๆ ที่อาจจะไม่มีผลงานโดดเด่นในรอบพอร์ต หรือไม่มีคุณสมบัติตรงตามรอบโควตา
    
  • น้องๆ ที่ทำคะแนนสอบส่วนกลางได้ดีและต้องการวัดกันที่ความรู้ความสามารถทางวิชาการ
    
• ใช้อะไรในการยื่น?
  
  1. คะแนนสอบ TGAT/TPAT
     
  2. คะแนนสอบ A-Level
     
  3. ผลการเรียน (GPAX) (สัดส่วนคะแนนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคณะ/มหาวิทยาลัย)
     
• พี่แนะแนว: "รอบนี้คือการวางแผนกลยุทธ์ล้วนๆ! น้องต้องรู้จักคะแนนตัวเอง ประเมินคะแนนสูง-ต่ำของปีก่อนๆ แล้วจัด 10 อันดับให้ดีที่สุด ผสมผสานระหว่าง 'คณะที่ใช่' กับ 'คณะที่คะแนนถึงแน่ๆ' เพื่อไม่ให้หลุดเลยสักอันดับ!"
  

รอบที่ 4: Direct Admission (รับตรงอิสระ) - #รอบเก็บตกแห่งความหวัง
ประตูบานสุดท้าย... สำหรับคนที่ไม่ยอมแพ้

• รอบนี้คืออะไร? เป็นรอบสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยจะเปิดรับสมัครโดยตรงอีกครั้ง เพื่อเติมที่นั่งที่ยังว่างอยู่จาก 3 รอบแรก
  
• เหมาะกับใครเป็นพิเศษ?
  
  • น้องๆ ที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจากทั้ง 3 รอบแรก
    
  • น้องๆ ที่สละสิทธิ์มาจากรอบก่อนหน้าและอยากหาที่เรียนใหม่
    
• ใช้อะไรในการยื่น? - แล้วแต่มหาวิทยาลัยกำหนดเลย! บางที่อาจจะใช้คะแนนเดิมจากรอบ 3, บางที่อาจจัดสอบใหม่, บางที่อาจเรียกสัมภาษณ์อย่างเดียว
  
• พี่แนะแนว: "รอบนี้ต้องไวและตามข่าวติดขอบสนาม! คณะไหน มหา'ลัยไหน ประกาศรับเพิ่มปุ๊บต้องรีบยื่นสมัครปั๊บ เพราะที่นั่งมักจะมีจำกัดและอาจปิดรับสมัครเร็วมาก!"
  

สรุปส่งท้าย

ครบแล้ว! กับทัวร์ 4 รอบของระบบ TCAS น้องๆ จะเห็นว่าแต่ละรอบมีเป้าหมายและเหมาะกับคนไม่เหมือนกันเลย หัวใจสำคัญคือการ "รู้จักตัวเอง" ว่าเรามีจุดเด่นด้านไหน แล้ว "วางแผน" ให้สอดคล้องกับรอบนั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสอบติดให้มากที่สุด

ในบทความหน้า เราจะมาเริ่มวางแผนการสอบกันแบบจริงๆ จังๆ แล้ว! พลาดไม่ได้กับ: "วางแผนสอบ TCAS ยังไงให้สอบติดตั้งแต่รอบแรกกัน!"