รีวิวคณะทันตแพทยศาสตร์: อยากเป็นหมอฟันต้องเรียนอะไร?

Last updated: 19 ก.ค. 2568  |  190 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รีวิวคณะทันตแพทยศาสตร์: อยากเป็นหมอฟันต้องเรียนอะไร?

รีวิวคณะทันตแพทยศาสตร์: อยากเป็นหมอฟันต้องเรียนอะไร?

"หมอฟัน" หรือ "ทันตแพทย์" คืออีกหนึ่งวิชาชีพสายสุขภาพในกลุ่ม กสพท ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เป็นอาชีพที่ผสมผสานทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์, ความแม่นยำ, และทักษะทางศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับผู้ป่วย

เส้นทางสู่การเป็นทันตแพทย์นั้นต้องใช้เวลาเรียนถึง 6 ปีเช่นเดียวกับแพทย์ แต่มีความท้าทายและเนื้อหาการเรียนที่เฉพาะทางแตกต่างกันออกไป วันนี้ Tutorwa Channel จะพาน้องๆ ไปเจาะลึกชีวิตนักศึกษาทันตแพทย์ตลอด 6 ปี ว่าต้องเรียนอะไร ฝึกฝนทักษะด้านไหน และจบไปแล้วจะทำงานอะไรได้บ้าง

อยากเป็นหมอฟัน ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
นอกจากความรู้ทางวิชาการแล้ว "คุณสมบัติเฉพาะตัว" ของคนที่จะเป็นหมอฟันได้ดีนั้น มีดังนี้ค่ะ:

  • ทักษะการใช้มือและสายตาที่ดีเยี่ยม (Fine Motor Skills): งานทันตกรรมเป็นงานที่ละเอียดอ่อนและต้องทำในพื้นที่เล็กๆ อย่างช่องปาก ความนิ่ง, ความแม่นยำ, และสายตาที่ดีจึงสำคัญมาก
  • มีความเป็นศิลปินในหัวใจ: การอุดฟัน, การทำฟันปลอม, หรือการจัดฟัน ล้วนต้องอาศัยความรู้สึกเชิงศิลปะเพื่อสร้างผลงานที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
  • ความอดทนและสมาธิสูง: สามารถทำงานที่ละเอียดซับซ้อนเป็นเวลานานๆ ได้
  • ทักษะการสื่อสารที่ดี: สามารถอธิบายแผนการรักษาที่ซับซ้อนให้ผู้ป่วยเข้าใจได้ง่าย และสร้างความไว้วางใจได้
  • แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ: สามารถรับมือกับความเครียดและต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพอที่จะทำงานในท่าทางเดิมๆ ได้นาน

6 ปีในคณะทันตะฯ เรียนอะไรกันบ้าง?
หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิตมีความคล้ายคลึงกับคณะแพทยศาสตร์ในช่วงปีแรกๆ แต่จะเริ่มเน้นความเฉพาะทางเร็วขึ้น

  • ปี 1 (Pre-medical): เรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับนักศึกษาแพทย์และคณะสายวิทย์อื่นๆ เช่น ชีววิทยา, เคมี, ฟิสิกส์ เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจร่างกายมนุษย์
  • ปี 2-3 (Pre-clinical): เป็นช่วงที่เรียนหนักที่สุด! จะเริ่มเรียนรู้เรื่องร่างกายมนุษย์ในเชิงลึกเหมือนนักศึกษาแพทย์ เช่น กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy), สรีรวิทยา (Physiology) แต่จะเริ่มมีวิชาเฉพาะทางทันตกรรมเข้ามาด้วย เช่น ทันตกายวิภาคศาสตร์ (Dental Anatomy) ที่เรียนรู้รูปร่างของฟันแต่ละซี่ และที่สำคัญคือการ "ฝึก Lab มือ" หรือการฝึกปฏิบัติในห้องแล็บ เช่น การแกะสลักฟันจากขี้ผึ้ง (Wax), การกรอฟันในโมเดลจำลอง ซึ่งเป็นหัวใจของการฝึกทักษะหัตถการ
  • ปี 4-6 (Clinical): "ชั้นคลินิก" คือช่วงเวลาที่นักศึกษาทันตแพทย์ (นศท.) จะได้ลงมือปฏิบัติจริงกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลทันตกรรมภายใต้การดูแลของอาจารย์ จะได้วนเรียนและฝึกทำงานในทุกสาขาของทันตกรรม เช่น:
    • ทันตกรรมทั่วไป: อุดฟัน, ขูดหินปูน, ถอนฟัน
    • ทันตกรรมสำหรับเด็ก (Pediatric Dentistry)
    • ทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthodontics): การทำฟันปลอม
    • ปริทันตวิทยา (Periodontology): การรักษาโรคเหงือก
    • ศัลยศาสตร์ช่องปาก (Oral Surgery): การผ่าฟันคุด
    • ทันตกรรมจัดฟัน (Orthodontics)

ชีวิตในช่วงนี้จะท้าทายมาก เพราะต้องรับผิดชอบเคสผู้ป่วยของตัวเอง, ทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย, และบริหารจัดการเวลาให้ดี

จบ 6 ปีแล้วไปไหนต่อ?

  1. สอบใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม: เพื่อให้ได้เป็น "ทันตแพทย์/ทันตแพทย์หญิง" อย่างเต็มตัว
  2. การทำงานใช้ทุน: ทำงานในโรงพยาบาลของรัฐเป็นเวลา 3 ปี
  3. เส้นทางอาชีพ:
    • เปิดคลินิกส่วนตัว: เป็นเป้าหมายของทันตแพทย์ส่วนใหญ่
    • ทำงานในโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
    • เรียนต่อเฉพาะทาง: เช่น ทันตแพทย์จัดฟัน, ศัลยแพทย์ช่องปาก ซึ่งใช้เวลาเรียนต่ออีกหลายปี
    • เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

อยากเข้าคณะทันตะฯ ต้องเตรียมตัวสอบอะไร?

  • TPAT1 วิชาเฉพาะ กสพท (ความถนัดแพทย์)
  • A-Level 7 วิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ 1, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, และภาษาอังกฤษ

อาชีพทันตแพทย์เป็นงานที่ท้าทายแต่ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของรายได้และความภาคภูมิใจที่ได้มอบรอยยิ้มสุขภาพดีให้กับผู้คน หากน้องๆ เป็นคนที่มีทั้งหัวใจของนักวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณของศิลปิน นี่อาจเป็นเส้นทางที่ใช่สำหรับนักเรียนค่ะ

แล้วถ้าเราสนใจเรื่องยาและการดูแลสุขภาพโดยรวมล่ะ? รอติดตามบทความต่อไปกับ 'รีวิวคณะเภสัชศาสตร์: เรียนกี่ปี? จบแล้วทำงานที่ไหนได้บ้าง?' กันนะคะ!


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้