รีวิวคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์: เรียนหนักจริงไหม?

รีวิวคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์: เรียนหนักจริงไหม?

"เรียนสถาปัตย์ฯ ไม่ได้นอน" คือวลีเด็ดที่น้องๆ หลายคนคงเคยได้ยิน และมันกลายเป็นภาพจำของคณะนี้ไปแล้ว แต่เบื้องหลังความเหนื่อยและความทุ่มเทนั้น คือหลักสูตรการเรียนรู้ที่เข้มข้นและน่าหลงใหล ที่จะปั้นให้เราเป็น "สถาปนิก" ผู้สร้างสรรค์พื้นที่และสิ่งปลูกสร้างให้กับผู้คน

วันนี้ Tutorwa Channel จะพาไปไขความลับและเจาะลึกชีวิตในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ตลอด 5 ปีเต็ม ว่าเรียนหนักจริงไหม, ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง, และต้องมีคุณสมบัติแบบไหนถึงจะเรียนรอดและมีความสุขกับเส้นทางสายนี้

คำตอบแรก: เรียนหนักจริงไหม?
 
ตอบตามตรงว่า "จริงค่ะ" แต่ไม่ใช่การเรียนหนักแบบท่องจำตำราเหมือนคณะอื่น ความหนักของสถาปัตย์ฯ มาจากการทำงาน "สตูดิโอ (Studio)" หรือที่เรียกกันติดปากว่า "ทำโปรเจกต์ส่งอาจารย์" ซึ่งเป็นหัวใจของการเรียนคณะนี้ น้องๆ จะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่นอกห้องเรียนไปกับการคิดงาน, ออกแบบ, พัฒนาแบบ, และทำโมเดลส่ง ซึ่งมักจะกินเวลาจนถึงดึกดื่นหรือเช้าของอีกวัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นความเหนื่อยที่มาพร้อมกับความสนุก, ความท้าทาย, และความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง

อยากเรียนสถาปัตย์ฯ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
หลายคนคิดว่าต้องวาดรูปเก่งอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วทักษะอื่นสำคัญไม่แพ้กัน:

• มีความคิดสร้างสรรค์และช่างสังเกต: ชอบมองสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้วเกิดไอเดีย
  
• มีความอดทนและถึกเป็นพิเศษ: สามารถทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ได้
  
• บริหารจัดการเวลาได้ดี: เพราะต้องรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ด้วยตัวเอง
  
• แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง: การออกแบบคือการแก้ปัญหา ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน 100%
  
• มีใจรักและเปิดกว้าง: รักในงานออกแบบและพร้อมรับฟังคำวิจารณ์ (Critique) จากอาจารย์และเพื่อนๆ เพื่อนำไปพัฒนางานต่อ

หลักสูตร 5 ปี เรียนอะไรกันบ้าง?
หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิตใช้เวลาเรียน 5 ปี เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม

• ปี 1: ปูพื้นฐานด้านศิลปะและการออกแบบทั้งหมด เรียนรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์, การใช้เส้น, สี, แสงเงา, และที่สำคัญคือ การฝึกวาดเส้น (Drawing) และการเขียนแบบเบื้องต้น (Drafting)
  
• ปี 2-3: เข้าสู่การเรียน "ออกแบบสถาปัตยกรรม (Architectural Design)" อย่างเต็มตัว จะได้ทำโปรเจกต์ออกแบบอาคารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เช่น บ้าน, ร้านกาแฟ, อาคารสาธารณะ ควบคู่ไปกับการเรียนวิชาสายเทคนิค เช่น โครงสร้าง, วัสดุ, และงานระบบอาคาร
  
• ปี 4: เป็นปีที่เรียนโปรเจกต์ออกแบบที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น อาคารสาธารณะขนาดใหญ่, การออกแบบผังเมือง ควบคู่ไปกับการเรียนทฤษฎีและประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม
  
• ปี 5: ปีแห่ง "วิทยานิพนธ์ (Thesis)" น้องๆ จะต้องเลือกหัวข้อโครงการที่ตัวเองสนใจและพัฒนาโปรเจกต์ออกแบบสถาปัตยกรรมชิ้นสุดท้ายที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดด้วยตัวเองตลอดทั้งปีการศึกษา และยังมีการฝึกงานในบริษัทสถาปนิกจริงๆ อีกด้วย

จบสถาปัตย์ฯ ทำงานอะไรได้บ้าง?

• สถาปนิก (Architect): ทำหน้าที่ออกแบบอาคารและสิ่งก่อสร้าง เป็นอาชีพหลักของบัณฑิตคณะนี้
  
• ภูมิสถาปนิก (Landscape Architect): ออกแบบพื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น สวนสาธารณะ, พื้นที่สีเขียว
  
• นักออกแบบภายใน (Interior Designer): ออกแบบและตกแต่งพื้นที่ภายในอาคาร
  
• นักออกแบบผังเมือง (Urban Designer/Planner): วางแผนและออกแบบพัฒนาเมือง
  
• นักออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Designer)
  
• นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer)
  
• ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer)
  
• และอีกหลากหลายอาชีพในสายงานสร้างสรรค์ 

อยากเข้าคณะสถาปัตย์ฯ ต้องเตรียมตัวสอบอะไร?

• TGAT ความถนัดทั่วไป
  
• TPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ (สำคัญที่สุด! วัดทักษะด้านมิติสัมพันธ์, การวาดภาพ, และความรู้พื้นฐานโดยตรง)
  
• A-Level คณิตศาสตร์ 1, ฟิสิกส์, และภาษาอังกฤษ