รีวิวข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ 1 (ประยุกต์) ปีล่าสุด

Last updated: 14 ก.ค. 2568  |  195 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รีวิวข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ 1 (ประยุกต์) ปีล่าสุด

รีวิวข้อสอบ A-Level คณิต 1 (ประยุกต์) ปีล่าสุด: เจาะลึกทุกบทที่ออกสอบ!

มาถึงสนามสอบที่เรียกได้ว่าเป็น "ด่านชี้ชะตา" ของเด็กสายวิทย์และเด็กสายศิลป์-คำนวณ นั่นก็คือ A-Level คณิตศาสตร์ 1 (ประยุกต์) ซึ่งเป็นวิชาที่ใช้ยื่นเข้าคณะสายแข็งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กสพท, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ไปจนถึงบริหาร-บัญชี และเศรษฐศาสตร์

วันนี้ พี่ๆ Tutorwa Channel จะมาทำการรีวิวและเจาะลึกข้อสอบ A-Level คณิต 1 ปีล่าสุด (อ้างอิงการสอบปี 68) เพื่อให้น้องๆ #dek69 และรุ่นต่อๆ ไปได้เห็นภาพรวมทั้งหมดว่าข้อสอบเน้นเรื่องอะไร บทไหนออกเยอะ บทไหนเป็นตัวตัดคะแนน และเราควรวางแผนการเตรียมตัวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด

Disclaimer: บทวิเคราะห์นี้เป็นการรวบรวมและประเมินจากแนวโน้มของข้อสอบ ความคิดเห็นจากผู้เข้าสอบ และข้อมูลที่เผยแพร่โดยทั่วไป เพื่อเป็นแนวทางทางการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่การนำข้อสอบจริงมาเปิดเผยแต่อย่างใด

ภาพรวมข้อสอบ A-Level คณิต 1 ปีล่าสุด

รายละเอียดข้อมูล
จำนวนข้อ30 ข้อ
รูปแบบตอนที่ 1: ปรนัย 5 ตัวเลือก (25 ข้อ x 3 คะแนน)
ตอนที่ 2: อัตนัยเติมคำตอบ (5 ข้อ x 5 คะแนน)
เวลา90 นาที (เฉลี่ยข้อละ 3 นาที)
คะแนนเต็ม100 คะแนน
ภาพรวมความยากปีล่าสุดมีแนวโน้มเน้น "ความเข้าใจเชิงลึกในคอนเซปต์" มากขึ้น ไม่ใช่โจทย์ที่ต้องใช้การคำนวณซับซ้อนหรือ "ถึก" อย่างเดียว โจทย์หลายข้อเป็นการวัดความเข้าใจนิยามและคุณสมบัติต่างๆ อย่างแท้จริง

 

เจาะลึก! บทไหนออกเยอะ บทไหนต้องเน้น (วิเคราะห์ตามสัดส่วน)
จากการสอบปีล่าสุด เราสามารถแบ่งกลุ่มบทเรียนตามสัดส่วนการออกข้อสอบได้ดังนี้ค่ะ

  กลุ่มพระเอก (Top Tier - ออกเยอะมาก ต้องเก็บให้แม่น!)

  1. สถิติ (Statistics): ยังคงเป็นแชมป์ที่ออกข้อสอบเยอะที่สุดเสมอมา เน้นทั้งสถิติเชิงพรรณนา (ค่ากลาง, ค่าการกระจาย, ตำแหน่งของข้อมูล) และที่สำคัญคือ "การแจกแจงปกติและเส้นโค้งปกติ" ซึ่งเป็นหัวใจของข้อสอบสถิติในระดับนี้
  2. แคลคูลัส (Calculus): เป็นอีกหนึ่งบทยักษ์ใหญ่ที่ออกเยอะไม่แพ้กัน ครอบคลุมตั้งแต่ ลิมิต, ความต่อเนื่อง, อนุพันธ์ (การหาค่าสูงสุด/ต่ำสุด, ความชัน) และปริพันธ์ (พื้นที่ใต้กราฟ)
  3. ความน่าจะเป็น (Probability): เน้นหนักไปที่กฎการนับ (การจัดหมู่, การเรียงสับเปลี่ยน) และความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ มาครบทั้งโจทย์พื้นฐานและโจทย์ประยุกต์ที่ซับซ้อน

  กลุ่มพระรอง (Mid Tier - ออกรองลงมา แต่ทิ้งไม่ได้เด็ดขาด)

  1. ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม (Expo & Log): โจทย์เน้นการแก้สมการ/อสมการ และการทำความเข้าใจคุณสมบัติของกราฟ
  2. ฟังก์ชันตรีโกณมิติ (Trigonometry): ออกทั้งการแก้สมการตรีโกณมิติ, การประยุกต์ใช้กฎของ sine/cosine และความเข้าใจเรื่องอินเวอร์สฟังก์ชันตรีโกณมิติ
  3. จำนวนจริงและพหุนาม (Real Numbers & Polynomials): มักจะมาในรูปแบบการแก้อสมการค่าสัมบูรณ์ และทฤษฎีบทเศษเหลือ

  กลุ่มตัวประกอบ (Supporting Cast - ออกน้อย แต่เก็บง่าย/อาจเป็นตัวตัดคะแนน)

  1. เวกเตอร์ (Vectors): ออกไม่เยอะ แต่โจทย์มักไม่ซับซ้อน เน้นการ Dot Product, Cross Product และการประยุกต์ใช้ในเรขาคณิต
  2. เมทริกซ์ (Matrices): เน้นเรื่อง Determinant และการแก้ระบบสมการเชิงเส้น
  3. จำนวนเชิงซ้อน (Complex Numbers): ส่วนใหญ่ออก 1 ข้อ เน้นเรื่องพื้นฐาน เช่น การดำเนินการ, ขนาด, และรูปแบบเชิงขั้ว

ลักษณะโจทย์ที่น่าสนใจและจุดที่ต้องระวัง

  • โจทย์บูรณาการข้ามบท: ข้อสอบมีแนวโน้มนำความรู้หลายบทมาผสมในข้อเดียวมากขึ้น เช่น นำเรื่องลำดับและอนุกรมไปผสมในโจทย์ความน่าจะเป็น หรือนำตรีโกณมิติไปใส่ในโจทย์แคลคูลัส
  • โจทย์วัดความเข้าใจนิยาม: มีคำถามที่ดูเหมือนง่าย แต่ถ้าไม่เข้าใจนิยามจริงๆ จะตอบผิดทันที เช่น คำถามเกี่ยวกับความต่อเนื่องของฟังก์ชัน หรือความหมายของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
  • จุดหลอกในข้อเติมคำตอบ: ตอนที่ 2 ที่เป็นแบบเติมคำตอบ มักเป็นจุดที่ตัดคะแนนได้ง่ายที่สุด เพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการคำนวณจะทำให้เสียคะแนนไปเลยทันที ต้องรอบคอบเป็นพิเศษ

กลยุทธ์เตรียมตัวสำหรับ #dek69 และรุ่นต่อไป

  1. เน้นความเข้าใจ ไม่ใช่แค่จำสูตร: จากแนวโน้มข้อสอบ การเข้าใจที่มาและคอนเซปต์ของแต่ละเรื่องสำคัญกว่าการท่องสูตรลัดอย่างเดียว
  2. จัดลำดับความสำคัญ: ทุ่มเทเวลาให้กับ 3 บทพระเอก (สถิติ, แคลคูลัส, ความน่าจะเป็น) ให้แม่นยำที่สุด เพราะเป็นคลังคะแนนหลัก
  3. ฝึกทำโจทย์เก่าและจับเวลา: ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก การทำข้อสอบเก่าจะช่วยให้เราคุ้นเคยกับรูปแบบและบริหารเวลา 3 นาทีต่อข้อได้ดีขึ้น
  4. อย่าทิ้งบทเล็กๆ: บทอย่างเวกเตอร์หรือจำนวนเชิงซ้อน มักเป็นข้อที่เก็บคะแนนได้ไม่ยาก อย่าทิ้งไปเด็ดขาด เพราะทุกคะแนนมีความหมาย
  5. ใช้ "สมุดจดข้อผิดพลาด": สำหรับวิชาคณิตศาสตร์ สมุดเล่มนี้สำคัญมาก มันจะช่วยให้เรารู้ว่าเราผิดพลาดในขั้นตอนการคำนวณ หรือผิดพลาดเพราะไม่เข้าใจคอนเซปต์กันแน่

คณิตศาสตร์ 1 เป็นวิชาที่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการฝึกฝน การวางแผนที่ดีและเข้าใจแนวทางของข้อสอบจะช่วยให้น้องๆ เตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและคว้าคะแนนมาได้ตามเป้าหมายค่ะ

น้องๆ ที่เพิ่งสอบไปเจอโจทย์แนวไหนกันมาบ้าง หรือ #dek69 มีคำถามอะไรเกี่ยวกับวิชานี้ คอมเมนต์มาคุยกันได้เลย! และบทความหน้า เราจะมาเจาะลึกวิชาวิทยาศาสตร์กันต่อกับ 'รีวิวข้อสอบ A-Level ฟิสิกส์' ห้ามพลาดนะคะ!

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้