เจาะลึก TGAT: สรุปครบ 3 พาร์ท TGAT1, TGAT2, TGAT3 เตรียมตัวยังไง?

Last updated: 16 ก.ค. 2568  |  211 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เจาะลึก TGAT: สรุปครบ 3 พาร์ท TGAT1, TGAT2, TGAT3 เตรียมตัวยังไง?

เจาะลึก TGAT: สรุปครบ 3 พาร์ท TGAT1, TGAT2, TGAT3 เตรียมตัวยังไง?

หลังจากที่น้องๆ #dek68 และ #dek69 ได้รู้จักภาพรวมของระบบ TCAS จากบทความก่อนหน้าของเราไปแล้ว วันนี้พี่ๆ Tutorwa Channel จะพามาเจาะลึกข้อสอบที่เป็นเหมือน "พระเอก" ของสนามสอบนี้ นั่นก็คือ TGAT (Thai General Aptitude Test) นั่นเองค่ะ

ทำไมถึงบอกว่าเป็นพระเอก? ก็เพราะว่า TGAT เป็นคะแนนที่คณะส่วนใหญ่ในแทบทุกมหาวิทยาลัยต้องใช้! ไม่ว่าน้องๆ จะอยากเข้าสายวิทย์ สายศิลป์ หรือสายไหนๆ ก็มีโอกาสสูงมากที่จะต้องใช้คะแนน TGAT ดังนั้น การทำความเข้าใจข้อสอบและเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดจึงเป็นบันไดขั้นสำคัญสู่คณะในฝันเลยทีเดียว

บทความนี้จะผ่าทุกส่วนของ TGAT แบบละเอียด ทั้ง 3 พาร์ทคืออะไร สอบเรื่องไหนบ้าง และที่สำคัญคือ "ต้องเตรียมตัวยังไง"

TGAT คืออะไร? ทำไมสำคัญขนาดนี้?

TGAT คือ การทดสอบวัดความถนัดทั่วไป ไม่ได้วัดความรู้เชิงวิชาการหรือเนื้อหาในห้องเรียน แต่จะวัด "สมรรถนะ" หรือทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัยและการทำงานในอนาคต

คะแนนเต็ม: 300 คะแนน (แบ่งเป็น 3 พาร์ท พาร์ทละ 100 คะแนน) ความสำคัญ: ใช้ในรอบ Quota, Admission และ Direct Admission เป็นสัดส่วนคะแนนที่สูงในหลายๆ คณะ การทำคะแนน TGAT ได้ดีจึงเป็นการเพิ่มโอกาสสอบติดได้อย่างมหาศาล

เจาะลึก TGAT ทีละพาร์ท (Part by Part)

TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication)
 
พาร์ทนี้วัดทักษะการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เน้นแกรมมาร์ซับซ้อนเหมือนข้อสอบ A-Level แต่จะเน้นการใช้งานจริง

สอบอะไรบ้าง?:

  • ทักษะการพูด (Speaking & Conversation): จะมาในรูปแบบของบทสนทนา ให้เราเติมประโยคที่เหมาะสม (Question-Response, Short & Long Conversation)
  • ทักษะการอ่าน (Reading): วัดความสามารถในการอ่านเพื่อเข้าใจ มีทั้งการอ่านป้ายประกาศ, โฆษณา, กราฟ, ตาราง, และบทความสั้นๆ

คะแนนเต็ม: 100 คะแนน
กลยุทธ์เตรียมตัว:

  1. ท่องศัพท์ที่ใช้บ่อย: เน้นศัพท์ที่เจอในชีวิตประจำวัน สำนวน (Idioms) และ Phrasal Verbs พื้นฐาน
  2. ฝึกทำโจทย์บทสนทนา: ลองฝึกทำข้อสอบเก่าๆ หรือหาแบบฝึกหัด Conversation ในอินเทอร์เน็ต จะช่วยให้คุ้นเคยกับสำนวนการถาม-ตอบ
  3. เสพสื่อภาษาอังกฤษ: ดูหนัง (Soundtrack), ฟังเพลง, ฟัง Podcast จะช่วยให้สมองคุ้นชินกับสำเนียงและโครงสร้างประโยคแบบเจ้าของภาษา
  4. ฝึกอ่านเร็วจับใจความ: เวลาเจอ Reading Passage ให้อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกลับไปหาคำตอบในเนื้อเรื่อง จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก

TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical & Logical Thinking)
 
พาร์ทนี้วัด IQ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา ซึ่งถือเป็นพาร์ทที่ท้าทายความสามารถของน้องๆ พอสมควรเลยค่ะ

สอบอะไรบ้าง?: แบ่งเป็น 4 ด้านย่อยๆ

  1. ความสามารถทางภาษา: การวิเคราะห์และสรุปความจากบทความ, การใช้ภาษาให้ถูกต้อง, การเปรียบเทียบ (อุปมาอุปไมย)
  2. ความสามารถทางตัวเลข: การแก้โจทย์ปัญหาง่ายๆ, การวิเคราะห์ข้อมูลจากตาราง, อนุกรมตัวเลข
  3. ความสามารถทางมิติสัมพันธ์: การจินตนาการภาพสามมิติ, การพับกล่อง, การหมุนภาพ
  4. ความสามารถทางเหตุผล: การวิเคราะห์เงื่อนไขทางสัญลักษณ์, การสรุปความจากโจทย์ที่เป็นเงื่อนไข

คะแนนเต็ม: 100 คะแนน
กลยุทธ์เตรียมตัว:

  1. ฝึกทำโจทย์ IQ Test: ข้อสอบพาร์ทนี้คล้ายกับแบบทดสอบ IQ มาก การหาโจทย์แนวนี้มาฝึกทำบ่อยๆ จะช่วยสร้างความคุ้นเคยได้ดี
  2. ทบทวนคณิตศาสตร์พื้นฐาน: ไม่ต้องใช้สูตรซับซ้อน แต่ควรแม่นเรื่องบัญญัติไตรยางศ์, ร้อยละ, การเทียบคณิตศาสตร์ง่ายๆ
  3. วาดรูปและเขียนทด: โดยเฉพาะโจทย์มิติสัมพันธ์และโจทย์เงื่อนไข การวาดภาพหรือสร้างตารางประกอบการคิด จะช่วยลดความผิดพลาดได้เยอะ
  4. จับเวลาทำข้อสอบ: พาร์ทนี้เวลาค่อนข้างจำกัด การฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาจริงจะช่วยให้เราบริหารจัดการเวลาได้ดีขึ้นในห้องสอบ

TGAT3: สมรรถนะการทำงานในอนาคต (Future Workforce Competency) 

พาร์ทน้องใหม่ที่วัด "ทัศนคติ" และ "วุฒิภาวะ" ในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน

สอบอะไรบ้าง?: จะเป็นข้อสอบสถานการณ์สมมติ แล้วให้เราเลือกว่าจะแก้ไขหรือรับมือกับปัญหานั้นอย่างไร โดยแบ่งเป็น 4 ด้าน

  1. การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม (Value Creation & Innovation): การคิดต่อยอด, การพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น
  2. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving): การรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า, การมองปัญหาอย่างรอบด้าน
  3. การบริหารจัดการอารมณ์ (Emotional Governance): การควบคุมอารมณ์, การเข้าใจผู้อื่น
  4. การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม (Civic Engagement): การนึกถึงประโยชน์ส่วนรวม, ความรับผิดชอบต่อสังคม

คะแนนเต็ม: 100 คะแนน
กลยุทธ์เตรียมตัว:

  1. ไม่มีคำตอบที่ถูก 100%: พาร์ทนี้วัดทัศนคติ ดังนั้นคำตอบที่ดีที่สุดคือข้อที่แสดงถึงการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์, มีเหตุผล, มีคุณธรรม และคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
  2. ติดตามข่าวสารรอบตัว: การมีความรู้รอบตัวจะช่วยให้เราเข้าใจบริบทของปัญหาในโจทย์ได้ดีขึ้น
  3. คิดบวกและสร้างสรรค์: พยายามเลือกคำตอบที่แสดงถึงการมองโลกในแง่ดีและพร้อมที่จะเรียนรู้พัฒนา
  4. อ่านแนวข้อสอบจาก ทปอ.: ทปอ. จะมีตัวอย่างข้อสอบพาร์ทนี้มาให้ดู ลองเข้าไปศึกษาแนวทางและวิธีคิดของข้อสอบ จะทำให้เราจับทางได้ถูก
ช่วงเวลาTGAT1 (English)TGAT2 (Thinking)TGAT3 (Competency)
3 เดือนก่อนสอบ- ท่องศัพท์วันละ 15-20 คำ
- ปูพื้นฐานแกรมมาร์ที่จำเป็น
- ทำความเข้าใจโจทย์แต่ละประเภท
- ฝึกทำโจทย์รายวัน วันละ 5-10 ข้อ
- อ่านข่าว/บทความ
- ทำความเข้าใจหลักการทั้ง 4 ด้าน
2 เดือนก่อนสอบ- ฝึกทำข้อสอบบทสนทนา
- ฝึกอ่านบทความสั้นๆ
- เริ่มจับเวลาทำโจทย์
- เน้นทำส่วนที่ไม่ถนัด
- ลองทำแนวข้อสอบเก่าๆ
- ฝึกคิดวิเคราะห์สถานการณ์
1 เดือนก่อนสอบ- ทำข้อสอบเก่าแบบเต็มชุด
- ทบทวนศัพท์ทั้งหมด
- ทำข้อสอบเก่าแบบเต็มชุด
- หาเทคนิคลัดในการคิด
- ฝึกตอบคำถามเชิงทัศนคติ
- นอนให้พอ สมองต้องโปร่ง
1 สัปดาห์สุดท้าย- ทบทวนสำนวนที่เจอบ่อย
- พักผ่อนสายตา
- ทบทวนเทคนิคที่สรุปไว้
- ไม่หักโหมทำโจทย์ใหม่
- ทบทวนแนวคิดหลัก
- เตรียมตัวให้พร้อมสอบ

TGAT ไม่ใช่ข้อสอบที่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เป็นข้อสอบที่ต้องใช้การเตรียมตัวที่แตกต่างออกไป มันวัดทักษะที่เราสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ขอเพียงน้องๆ เข้าใจแนวทางและหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พี่ๆ เชื่อว่าคะแนน 250+ ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน!

และที่สำคัญ! อย่าลืมติดตาม 'แจกฟรี! แนวข้อสอบ TGAT1, TGAT2, และ TGAT3' ที่พี่ๆ Tutowa Channel กำลังจะปล่อยออกมาให้ฝึกทำกันเร็วๆ นี้! ติดตามเว็บเราไว้ได้เลย!

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้