ถอดรหัส 'วิชาเคมี' สอบเข้า ม.4: 4 เทคนิคเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
ในสนามสอบเข้า ม.4 โดยเฉพาะสายการเรียนที่มีการแข่งขันสูง ภาษาอังกฤษมักจะเป็น "วิชาตัดสิน" ที่ชี้ชะตาได้เลยว่าใครจะสอบติดหรือหลุดจากโผ เพราะเป็นวิชาที่นักเรียนสายวิทย์-คณิตหลายคนมักจะทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าที่ควร การทำคะแนนภาษาอังกฤษให้สูงจึงเปรียบเสมือนการสร้าง "แต้มต่อ" ที่สำคัญอย่างยิ่ง
การจะทำข้อสอบภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนดีนั้น ไม่ได้มาจากการดูหนังหรือฟังเพลงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเกิดจากการฝึกฝนทักษะที่ใช้ในการสอบโดยตรง วันนี้ Tutorwa Channel จะมาแบ่งทักษะภาษาอังกฤษออกเป็น 3 เสาหลัก พร้อมเทคนิคการฝึกฝนที่จะทำให้น้องๆ รับมือกับข้อสอบได้อย่างมั่นใจ
เสาหลักที่ 1: คลังคำศัพท์ (Vocabulary) - "รากฐานของทุกสิ่ง"
ถ้าไม่รู้ศัพท์ ก็ไม่สามารถอ่านบทความให้เข้าใจหรือทำข้อสอบไวยากรณ์ได้ การมีคลังศัพท์ที่แข็งแกร่งคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุด
- เทคนิคที่ 1: ท่องศัพท์อย่างเป็นระบบ:
- ตั้งเป้าหมายรายวัน: เริ่มจากวันละ 10-15 คำ ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน
- ใช้ Flashcards: ทำการ์ดคำศัพท์เล็กๆ ด้านหน้าเขียนศัพท์ ด้านหลังเขียนความหมายและประโยคตัวอย่าง พกติดตัวไว้ทบทวนเวลาว่าง
- ใช้แอปพลิเคชัน: มีแอปพลิเคชันช่วยจำศัพท์มากมายที่ทำให้การท่องศัพท์เป็นเรื่องสนุก
- เทคนิคที่ 2: เรียนจากรากศัพท์ (Root, Prefix, Suffix):
- นี่คือเทคนิค "แฮก" การจำศัพท์! การรู้รากศัพท์ที่เจอบ่อยๆ จะช่วยให้เราเดาความหมายของคำที่ไม่เคยเห็นได้ เช่น รู้ว่า tele- แปลว่าไกล, vis แปลว่ามอง ก็จะเดาได้ว่า television คืออะไร หรือรู้ว่า -ology แปลว่าการศึกษา ก็จะเข้าใจคำว่า biology, geology ได้
- เทคนิคที่ 3: เรียนรู้จากบริบท: เวลาเจอศัพท์ใหม่ อย่าจำแค่คำแปล แต่ให้ดูว่ามันถูกใช้ในประโยคอย่างไร จะช่วยให้เข้าใจความหมายและจดจำได้นานขึ้น
เสาหลักที่ 2: ไวยากรณ์ (Grammar) - "โครงสร้างที่ต้องแม่น"
นี่คือส่วนที่ทดสอบความเข้าใจในกฎเกณฑ์ของภาษาโดยตรง และมักจะออกในรูปแบบ Error Identification หรือ Sentence Completion
- เทคนิคที่ 1: โฟกัสเรื่องที่ออกบ่อย: ไม่ต้องพยายามเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกเรื่อง แต่ให้แม่นในหัวข้อหลักๆ เหล่านี้
- Subject-Verb Agreement: ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s/es
- Tenses: ความสัมพันธ์ของกาลต่างๆ โดยเฉพาะ Past Simple, Past Continuous, Past Perfect
- Parts of Speech: การแยกแยะหน้าที่ของคำ (noun, verb, adjective, adverb)
- Connectors / Conjunctions: คำเชื่อมต่างๆ เช่น if-clause, although, because
- เทคนิคที่ 2: ฝึกทำโจทย์ Error โดยเฉพาะ: การหาจุดผิดในประโยคเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน ยิ่งทำบ่อยก็จะยิ่ง "เห็น" จุดที่มักจะหลอกได้เร็วขึ้น
เสาหลักที่ 3: การอ่าน (Reading Comprehension) - "สมรภูมิจับใจความ"
ส่วนนี้มักจะมีสัดส่วนคะแนนเยอะที่สุดและต้องแข่งกับเวลาอย่างมาก
- เทคนิคที่ 1: ฝึกอ่านเร็วแบบ Skimming & Scanning:
- Skimming (อ่านกวาด): คือการอ่านเร็วๆ เพื่อจับใจความสำคัญของเรื่อง มักจะอ่านประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของแต่ละย่อหน้า
- Scanning (อ่านหา): คือการกวาดสายตาอย่างรวดเร็วเพื่อหา "ข้อมูลเฉพาะ" ที่โจทย์ถาม เช่น ชื่อคน, สถานที่, วันที่, หรือตัวเลข โดยไม่ต้องพยายามอ่านทุกคำ
- เทคนิคที่ 2: อ่านคำถามก่อนอ่านบทความ: วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าควรมองหาอะไรในบทความ ทำให้เราอ่านอย่างมีเป้าหมายและประหยัดเวลาได้มาก
- เทคนิคที่ 3: เดาศัพท์จากบริบท (Infer Vocabulary from Context): เป็นเรื่องปกติที่จะเจอศัพท์ที่เราไม่รู้ในบทความ อย่าตื่นตระหนก แต่ให้ลองอ่านประโยคข้างเคียงเพื่อเดาความหมายของศัพท์คำนั้น
แผนการฝึกซ้อมรายวัน (ลองทำวันละ 1 ชั่วโมง)
- 15 นาที: ท่องศัพท์ใหม่ (10 คำ) + ทบทวนศัพท์เก่าจากวันก่อนๆ
- 15 นาที: ทำโจทย์ Grammar (Error Identification / Cloze Test) 5-10 ข้อ
- 30 นาที: อ่านบทความภาษาอังกฤษสั้นๆ 1 บท (อาจจะเป็นข่าว, เรื่องสั้น หรือข้อสอบเก่า) แล้วลองสรุปใจความสำคัญ
การพัฒนาภาษาอังกฤษต้องอาศัยความสม่ำเสมอเหมือนการออกกำลังกาย ฝึกฝนทุกวันตาม 3 เสาหลักนี้ แล้วคะแนนภาษาอังกฤษของน้องๆ จะกลายเป็น "อาวุธลับ" ที่จะช่วยให้สอบติดโรงเรียนในฝันได้อย่างแน่นอน!