คำนวณคะแนน TCAS ยังไง? พร้อมวิธีคิดและโปรแกรมคำนวณ

การคำนวณคะแนน TCAS สำหรับรอบ 3 Admission เป็นเรื่องสำคัญที่น้องๆ ทุกคนต้องเข้าใจ เพื่อประเมินโอกาสและจัดอันดับคณะในฝันได้อย่างมีกลยุทธ์ บทความนี้จะอธิบายวิธีคิดคะแนนแบบจับมือทำ พร้อมแนะนำโปรแกรมคำนวณที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นค่ะ

หัวใจของการคำนวณคะแนน TCAS
 
หลักการสำคัญคือ "แต่ละคณะ/สาขา ให้ค่าน้ำหนักคะแนนในแต่ละวิชาไม่เท่ากัน" คะแนนเต็ม 100 ของคุณ ไม่ได้มาจากการบวกคะแนนดิบแล้วหารเฉลี่ย แต่มาจากการนำคะแนนแต่ละส่วนไปคูณกับ "ค่าน้ำหนัก" ที่คณะนั้นๆ กำหนด แล้วนำมารวมกัน

ตัวอย่างเช่น:

• คณะวิศวกรรมศาสตร์ อาจจะให้น้ำหนักกับคะแนน TPAT3 (ความถนัดวิศวะ) และ A-Level ฟิสิกส์ เยอะที่สุด
  
• คณะบัญชี อาจจะให้น้ำหนักกับ A-Level คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เยอะที่สุด
  
• คณะนิเทศศาสตร์ อาจจะให้น้ำหนักกับ TGAT และ A-Level ภาษาไทย-สังคม เยอะที่สุด
  

ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การเช็กเกณฑ์การคัดเลือกของคณะที่เราสนใจ จากเว็บไซต์ mytcas.com หรือประกาศของมหาวิทยาลัยโดยตรง
 
วิธีคิดและคำนวณคะแนน TCAS ด้วยตัวเอง (Step-by-Step)
 
สมมติว่าน้อง "ใฝ่ฝัน" อยากเข้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสมมติ ซึ่งมีเกณฑ์การคัดเลือกดังนี้:

• TGAT: 20%
  
• TPAT3: 40%
  
• A-Level คณิตศาสตร์ 1: 20%
  
• A-Level ฟิสิกส์: 20%
  

และน้อง "ใฝ่ฝัน" ได้คะแนนสอบดังนี้:

• TGAT: 240/300
  
• TPAT3: 65/100
  
• A-Level คณิตศาสตร์ 1: 70/100
  
• A-Level ฟิสิกส์: 60/100
  

เราจะใช้สูตรนี้ในการคำนวณคะแนนของแต่ละส่วน:

คะแนนที่ได้ในส่วนนั้น = (คะแนนดิบของเรา / คะแนนเต็มของวิชา) x ค่าน้ำหนักที่คณะกำหนด

มาคำนวณไปพร้อมกันทีละส่วนค่ะ

1. คำนวณคะแนน TGAT (น้ำหนัก 20%)

(240 / 300) x 20 = 16 คะแนน

2. คำนวณคะแนน TPAT3 (น้ำหนัก 40%)

(65 / 100) x 40 = 26 คะแนน

3. คำนวณคะแนน A-Level คณิตศาสตร์ 1 (น้ำหนัก 20%)

(70 / 100) x 20 = 14 คะแนน

4. คำนวณคะแนน A-Level ฟิสิกส์ (น้ำหนัก 20%)

(60 / 100) x 20 = 12 คะแนน

5. รวมคะแนนทั้งหมด นำคะแนนที่คำนวณได้จากทุกส่วนมารวมกัน: 16 + 26 + 14 + 12 = 68

ดังนั้น คะแนน TCAS ของน้อง "ใฝ่ฝัน" สำหรับใช้ยื่นคณะวิศวกรรมศาสตร์นี้คือ 68 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100

กรณีที่คณะใช้ GPAX (เกรดเฉลี่ยสะสม)

หากคณะที่น้องสนใจมีการใช้ GPAX ในการคำนวณด้วย (เช่น 10%) สูตรที่ใช้จะแตกต่างออกไปเล็กน้อย:

คะแนนในส่วน GPAX = (เกรดเฉลี่ยของเรา / 4.00) x ค่าน้ำหนักที่คณะกำหนด

ตัวอย่าง: ถ้าน้อง "ใฝ่ฝัน" มี GPAX 3.50 และคณะกำหนดค่าน้ำหนัก GPAX 10%

(3.50 / 4.00) x 10 = 8.75 คะแนน

จากนั้นก็นำคะแนน 8.75 นี้ไปรวมกับคะแนนส่วนอื่นๆ ที่ปรับค่าน้ำหนักแล้ว

โปรแกรมคำนวณคะแนน TCAS (ตัวช่วยที่ห้ามพลาด!)

เพื่อให้การคำนวณง่ายขึ้น รวดเร็ว และลดข้อผิดพลาด ปัจจุบันมีเว็บไซต์เพื่อการศึกษาหลายแห่งได้สร้างโปรแกรมคำนวณคะแนนไว้ให้ใช้ฟรี ซึ่งมักจะมีฐานข้อมูลเกณฑ์ของคณะต่างๆ อยู่แล้ว เพียงแค่เรากรอกคะแนนของเราเข้าไป โปรแกรมก็จะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ

เว็บไซต์โปรแกรมคำนวณคะแนนที่แนะนำ:

1. Dek-D TCAS:

• ลิงก์: https://www.dek-d.com/tcas/calculator/
• จุดเด่น: เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูง มีฐานข้อมูลเกณฑ์ของคณะต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน สามารถประเมินโอกาสสอบติดเบื้องต้นโดยเทียบกับคะแนนในปีก่อนๆ ได้

2. TCASter:

• ลิงก์: https://tcaster.net/ (มักจะอยู่ในแอปพลิเคชันมือถือ)
  
• จุดเด่น: เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันช่วยในการจัดอันดับ และมีข้อมูลข่าวสาร TCAS ที่อัปเดตอยู่เสมอ

3. Admission Premium:

• ลิงก์: https://www.admissionpremium.com/
• จุดเด่น: มีโปรแกรมช่วยประเมินโอกาสสอบติดและให้คำแนะนำในการเลือกคณะ
  

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• ตรวจสอบเกณฑ์ปีล่าสุดเสมอ: เกณฑ์การคัดเลือกและค่าน้ำหนักอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ควรยึดข้อมูลจากประกาศอย่างเป็นทางการของ ทปอ. (mytcas.com) หรือของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เป็นหลัก
  
• ใช้คะแนนในอดีตเป็นแนวทาง: สามารถดูคะแนนขั้นต่ำของปีก่อนๆ เพื่อเป็นแนวทางในการประเมินได้ แต่อย่าใช้เป็นตัวตัดสินทั้งหมด เพราะคะแนนในแต่ละปีมีความผันผวน
  
• คำนวณเพื่อวางแผน: การรู้คะแนนของตัวเองจะช่วยให้เราจัด 10 อันดับในรอบ Admission ได้อย่างมีกลยุทธ์ โดยอาจจะเลือกคณะที่คะแนนถึงแบบพอดี, คณะที่คะแนนสูงกว่าเผื่อไว้, และคณะที่คะแนนน้อยกว่าเพื่อความปลอดภัย
  

เท่านี้ก็ช่วยในการประเมินโอกาสและจัดอันดับคณะของน้องๆจากคะแนนสอบได้แล้วค่ะ หวังว่าน้องๆจะได้ลิสต์รายชื่อคณะในฝันและได้รับข่าวดีในที่สุด อย่าลืม! กลับมาเล่าให้พี่ฟังด้วยนะคะ