Last updated: 15 ก.ค. 2568 | 14 จำนวนผู้เข้าชม |
เนื้อหาเคมี A-Level ที่ออกสอบบ่อยที่สุดและถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำคะแนน สามารถสรุปและจัดลำดับความสำคัญได้ดังนี้ค่ะ
กลุ่มที่ 1: หัวใจหลัก (ออกเยอะและเป็นพื้นฐานของบทอื่น)
กลุ่มนี้มีสัดส่วนคะแนนมากที่สุดและเป็นพื้นฐานสำคัญของบทคำนวณอื่นๆ หากพื้นฐานกลุ่มนี้ไม่แม่นยำ จะส่งผลกระทบต่อบทอื่นอย่างมาก
1. ปริมาณสารสัมพันธ์ (Stoichiometry): สำคัญที่สุด เป็นรากฐานของทุกบทคำนวณ
สิ่งที่ต้องแม่น: การเปลี่ยนหน่วย, คอนเซปต์ของโมล, สูตรอย่างง่าย/สูตรโมเลกุล, ความเข้มข้นของสารละลายในหน่วยต่างๆ (โดยเฉพาะโมลาริตี), การคำนวณจากสมการเคมี, การหาสารกำหนดปริมาณ, และผลได้ร้อยละ
2. กรด-เบส (Acids-Bases): บทคำนวณยักษ์ใหญ่ที่ออกสอบเยอะมาก
สิ่งที่ต้องแม่น: ทฤษฎีกรด-เบส (อาร์เรเนียส, เบรินสเตด-ลาวรี, ลิวอิส), การแตกตัวของกรดแก่-เบสแก่ และกรดอ่อน-เบสอ่อน, การคำนวณ pH/pOH, การไทเทรตและ การวิเคราะห์กราฟการไทเทรต, และสารละลายบัฟเฟอร์
3. เคมีอินทรีย์ (Organic Chemistry): เป็นบทที่ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและความจำสูงมาก
สิ่งที่ต้องแม่น: การเรียกชื่อสาร (Nomenclature), หมู่ฟังก์ชัน (สำคัญมาก!), สมบัติของสารประกอบอินทรีย์ (จุดเดือด, การละลาย), ปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญ (การเติม, การแทนที่, การกำจัด), และไอโซเมอร์ (โดยเฉพาะไอโซเมอร์โครงสร้าง)
กลุ่มที่ 2: สำคัญรองลงมา (ออกสม่ำเสมอและเป็นตัวตัดสินคะแนน)
กลุ่มนี้เป็นบทที่ออกสอบทุกปีและมักจะเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะได้คะแนนสูง
4. พันธะเคมี (Chemical Bonding): เน้นความเข้าใจในคอนเซปต์
สิ่งที่ต้องแม่น: ประเภทของพันธะ (ไอออนิก, โควาเลนต์, โลหะ), การเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส, รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ (VSEPR), สภาพขั้วของโมเลกุล, และที่สำคัญที่สุดคือ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล ซึ่งใช้ในการเปรียบเทียบจุดเดือด-จุดหลอมเหลว
5. ไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry):
สิ่งที่ต้องแม่น: การหาเลขออกซิเดชัน, การดุลสมการรีดอกซ์, การทำงานของเซลล์กัลวานิกและเซลล์อิเล็กโทรไลต์, และการคำนวณหาค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์ (E°cell)
6. สมดุลเคมี (Chemical Equilibrium):
สิ่งที่ต้องแม่น: การเขียนค่าคงที่สมดุล (K), การคำนวณหาค่า K, และการใช้หลักของเลอชาเตอลิเยเพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของระบบ
กลุ่มที่ 3: บทเก็บตก (ออกไม่เยอะ แต่ไม่ควรทิ้ง)
กลุ่มนี้อาจจะออกไม่กี่ข้อ แต่โจทย์มักไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นส่วนที่ช่วยเก็บคะแนนได้ดี
7. ตารางธาตุและแนวโน้ม (Periodic Trends): ความเข้าใจแนวโน้มของขนาดอะตอม, พลังงานไอออไนเซชัน (IE), และอิเล็กโตรเนกาติวิตี (EN)
8. อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี (Chemical Kinetics): เน้นปัจจัยที่มีผลต่ออัตราฯ และการแปลความหมายจากกราฟ
9. สารชีวโมเลกุล (Biomolecules): ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างและประเภทของคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, และลิพิด
โดยสรุปแล้ว หากต้องการทำคะแนนเคมี A-Level ให้ได้ดี ควรให้ความสำคัญสูงสุดกับ ปริมาณสารสัมพันธ์, กรด-เบส, และเคมีอินทรีย์ เพราะเป็น 3 แกนหลักที่กินสัดส่วนคะแนนเยอะที่สุดนะ