Last updated: 11 ธ.ค. 2568 | 22 จำนวนผู้เข้าชม |
แม่ๆ เคยได้ยินประโยคนี้ไหมคะ? "ลูกในท้องคือนักดูดแคลเซียมตัวยง" เพราะทารกต้องใช้แคลเซียมจำนวนมากในการสร้างกระดูกและฟัน ถ้าแม่กินเข้าไปไม่พอ ร่างกายจะไปดึงแคลเซียมจากกระดูกและฟันของแม่มาให้ลูกแทน! ผลที่ตามมาคือ แม่ฟันผุ ปวดหลัง กระดูกเปราะ และเป็นตะคริว นั่นเองค่ะ
แล้วเราจะกินแคลเซียมยังไงให้คุ้มค่าที่สุด? มาดูกันค่ะ
แคลเซียมที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่จ่ายให้ (แคลเซียมคาร์บอเนต) ต้องการ "กรดในกระเพาะอาหาร" เพื่อช่วยในการละลายและดูดซึมค่ะ
✅ แนะนำ: ให้กิน "หลังอาหารทันที" (มื้อเช้าหรือเย็นก็ได้) จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่ที่สุด
❌ ไม่แนะนำ: กินตอนท้องว่าง เพราะอาจดูดซึมได้น้อย และบางคนอาจมีอาการท้องอืด หรือคลื่นไส้ได้ง่ายค่ะ
ข้อนี้สำคัญมาก กาจันล้านดวงเลยค่ะแม่!
ยาบำรุงเลือด (เม็ดสีแดง/สีเลือดหมู) ที่มีธาตุเหล็ก
ยาแคลเซียม (เม็ดสีขาว/เม็ดฟู่)
สองอย่างนี้ "ไม่ถูกกัน" ค่ะ! ถ้ากินพร้อมกัน มันจะขัดขวางการดูดซึมกันเอง ทำให้แม่กินไปก็เสียของ ไม่ได้ประโยชน์ทั้งคู่
วิธีแก้: ต้องกินห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
มื้อเช้า (หลังอาหาร): กินแคลเซียม
มื้อเย็น (หลังอาหาร) หรือ ก่อนนอน: ค่อยกินยาบำรุงเลือด (สลับมื้อกันไปเลย ชัวร์ที่สุดค่ะ)
จริงค่ะ! อาการตะคริวที่น่องกลางดึก มักเกิดจากระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และความสมดุลของแร่ธาตุผิดปกติ การได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ (ประมาณ 1,000 - 1,200 มก./วัน) จะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของตะคริวได้ชัดเจนค่ะ
ถ้าวันไหนลืมกินยา หรืออยากเสริมจากธรรมชาติ จัดไปตามนี้เลยค่ะ:
นม/โยเกิร์ต: ดื่มวันละ 1-2 แก้ว
ปลาตัวเล็กตัวน้อย: ที่เคี้ยวได้ทั้งกระดูก (เช่น ปลาข้าวสาร, ปลาฉิ้งฉ้างทอดไม่อร่อยนะแม่ เอาแบบอบหรือต้มดีกว่า)
ผักใบเขียวเข้ม: คะน้า, บรอกโคลี, ตำลึง
งาดำ: โรยในข้าวหรือเครื่องดื่ม วันละ 1 ช้อนโต๊ะ (แคลเซียมสูงมาก!)
เพื่อกระดูกที่แข็งแรงของลูก และเพื่อรักษาร่างกายของแม่ไม่ให้พังหลังคลอด "วินัยการกินแคลเซียม" สำคัญมากค่ะ
ท่องไว้เลยนะคะ: "กินหลังอาหาร และห่างจากยาบำรุงเลือด" แค่นี้แม่ก็ห่างไกลจากภาวะกระดูกพรุนและตะคริวแล้วค่า!
ข้อควรระวัง (Disclaimer): บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพแม่และเด็กเท่านั้น เนื้อหาทั้งหมดไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากคุณแม่มีประวัติเป็นนิ่วในไต หรือโรคประจำตัวอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานแคลเซียมเสริม เพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสมค่ะ
12 ธ.ค. 2568