อัลตราซาวด์ 2D 3D 4D ต่างกันยังไง? เจาะลึกความชัด & ความคุ้มค่า แม่ท้องควรเลือกแบบไหน?

Last updated: 11 ธ.ค. 2568  |  5 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อัลตราซาวด์ 2D 3D 4D ต่างกันยังไง? เจาะลึกความชัด & ความคุ้มค่า แม่ท้องควรเลือกแบบไหน?

อัลตราซาวด์ 2D 3D 4D ต่างกันยังไง? แม่ท้องควรเลือกแบบไหนให้คุ้มและอุ่นใจที่สุด
วินาทีที่ตื่นเต้นที่สุดของการฝากครรภ์ ก็คือตอนที่คุณหมอทาเจลเย็นๆ ที่ท้องแล้วเอาหัวตรวจมาไถๆ เพื่อดูเจ้าตัวเล็กในจอนี่แหละค่ะ! แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีไปไกลมาก มีให้เลือกทั้งแบบ 2 มิติ, 3 มิติ และ 4 มิติ จนแม่ๆ เริ่มงงว่า "เอ๊ะ! แล้วฉันต้องเลือกแบบไหน? จำเป็นต้อง 4D ไหม หรือแค่ 2D ก็พอ?"

วันนี้แอดมินจะมาไขข้อข้องใจ เทียบให้เห็นภาพชัดๆ ว่าแต่ละแบบต่างกันยังไง และแบบไหนที่ "จำเป็น" จริงๆ ค่ะ

1. อัลตราซาวด์ 2 มิติ (2D Ultrasound): ขาว-ดำ แต่อัดแน่นด้วยสาระ
นี่คือแบบมาตรฐานที่คุณหมอใช้กันทั่วโลกค่ะ ภาพที่เห็นจะเป็น "ภาพตัดขวาง ขาว-ดำ" (ดูไม่ออกเลยใช่ไหมคะว่าตรงไหนแขนตรงไหนขา 555)

  • จุดเด่น: คุณหมอใช้ดู "โครงสร้างภายใน" ได้ดีที่สุดค่ะ เช่น วัดขนาดกะโหลกศีรษะ, ดูหัวใจ 4 ห้อง, ดูกระดูกสันหลัง, วัดความยาวกระดูกต้นขา และดูความสมบูรณ์ของอวัยวะภายใน
  • ความคุ้มค่า: จำเป็นที่สุด! และมักจะรวมอยู่ในค่าฝากครรภ์ปกติอยู่แล้ว

2. อัลตราซาวด์ 3 มิติ (3D Ultrasound): เห็นมิติ มีตื้นลึกหนาบาง
อัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น! เครื่องจะประมวลผลจากภาพ 2D หลายๆ ภาพมารวมกันจนเกิดเป็น "ภาพนิ่งที่มีมิติ" (สีส้มๆ ทองๆ ที่เราคุ้นตากัน)

  • จุดเด่น: เห็นหน้าลูกชัดขึ้น! เห็นแก้มยุ้ยๆ จมูกโด่งๆ หรือนิ้วมือนิ้วเท้าได้ชัดเจนกว่าแบบ 2D ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่จินตนาการหน้าลูกได้ง่ายขึ้น และช่วยหมอตรวจหาความผิดปกติภายนอกได้ดี เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่
  • ข้อจำกัด: เป็นแค่ "ภาพนิ่ง" เหมือนเราถ่ายรูปโปสเตอร์ค่ะ ไม่เห็นลูกขยับ

3. อัลตราซาวด์ 4 มิติ (4D Ultrasound): เหมือนดูหนัง เห็นลูกดิ้นสดๆ!
นี่คือที่สุดของความฟิน! เพราะมันคือภาพ 3D ที่ "เคลื่อนไหวได้แบบ Real-time" (เพิ่มมิติของ "เวลา" เข้ามาเป็นมิติที่ 4)

  • จุดเด่น: เห็นลูกกำลังทำกิจกรรมในท้องสดๆ เลยค่ะ เช่น กำลังดูดนิ้ว, อ้าปากหาว, ยิ้ม, ขมวดคิ้ว หรือกำลังดิ้นดุ๊กดิ๊ก แม่ๆ หลายคนน้ำตาไหลตอนเห็นช็อตนี้แหละ
  • ความคุ้มค่า: เน้นเรื่อง "ความผูกพัน (Bonding)" ล้วนๆ ค่ะ ให้พ่อแม่ได้เห็นลูกชัดๆ ก่อนคลอด (มักขายเป็นแพ็กเกจพิเศษ ราคาหลักพัน)

ตารางสรุป: เทียบชัดๆ แบบไหนดี?

หัวข้อเปรียบเทียบ2D (มาตรฐาน)3D (ภาพนิ่ง)4D (ภาพเคลื่อนไหว)
ลักษณะภาพขาว-ดำ, ภาพแบนๆสีส้ม/ทอง, มีมิติสีส้ม/ทอง, ขยับได้
สิ่งที่เห็นโครงสร้าง, อวัยวะภายในใบหน้า, ผิวหนังภายนอกพฤติกรรม, การขยับตัว
ประโยชน์หลักวินิจฉัยโรค/ความสมบูรณ์ตรวจความผิดปกติภายนอกสร้างความผูกพันพ่อแม่ลูก
ราคาถูกสุด (มักรวมในแพ็กเกจ)ปานกลางสูงสุด (2,000 - 4,000+)

สรุป: แม่ท้องควรเลือกแบบไหน?

  • สายประหยัด & เน้นผลการแพทย์: แค่ 2D ก็เพียงพอแล้วค่ะ ในการเช็กความสมบูรณ์ของลูก คุณหมอสามารถวินิจฉัยทุกอย่างได้ครบถ้วนจากภาพ 2D ค่ะ
  • สายเก็บความทรงจำ: แนะนำให้ซื้อแพ็กเกจ 4D สัก 1 ครั้ง ช่วงอายุครรภ์ 26-32 สัปดาห์ (เป็นช่วงที่แก้มลูกเริ่มยุ้ย และยังมีพื้นที่ในมดลูกเหลือพอให้เห็นหน้าชัดๆ) รับรองว่าได้คลิปวิดีโอเก็บไว้ดูให้หายคิดถึงตอนลูกโตแน่นอนค่ะ

Tips: ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ขอแค่ลูกในท้องแข็งแรงสมบูรณ์ ก็คือข่าวดีที่สุดของแม่ๆ แล้วจริงไหมคะ? ❤️


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้