อารมณ์แปรปรวนตอนท้อง รับมืออย่างไร ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์

Last updated: 11 ธ.ค. 2568  |  16 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อารมณ์แปรปรวนตอนท้อง รับมืออย่างไร ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์

เชื่อว่าว่าที่คุณแม่หลายท่านต้องเคยเจอกับภาวะที่อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล หรือหงุดหงิดคนข้างกายโดยไม่มีสาเหตุ อาการเหล่านี้คือ "อารมณ์แปรปรวนตอนท้อง" ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ แต่หากปล่อยไว้อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในครอบครัวได้ค่ะ

บทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และวิธีรับมือที่ทำตามได้ง่ายๆ เพื่อให้ทั้งคุณแม่และคนในครอบครัวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่นค่ะ

สาเหตุของอาการอารมณ์แปรปรวนในช่วงตั้งครรภ์
ก่อนจะไปดูวิธีแก้ เราต้องเข้าใจก่อนค่ะว่าอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการที่ "เรานิสัยเปลี่ยนไป" แต่มีปัจจัยกระตุ้นทางร่างกายหลักๆ 2 ประการค่ะ:

  1. ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง: โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก (1-3 เดือนแรก) ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลโดยตรงต่อสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้การควบคุมอารมณ์ทำได้ยากขึ้น
  2. ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย: อาการแพ้ท้อง ความเหนื่อยล้า ปวดเมื่อย หรือความกังวลเรื่องลูกในครรภ์ ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียดสะสมและหงุดหงิดได้ง่ายขึ้นค่ะ

5 วิธีรับมือกับอารมณ์แปรปรวน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
1. สื่อสารความรู้สึกออกไปตรงๆ
การเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวมักทำให้สถานการณ์แย่ลงค่ะ ลองเปิดใจคุยกับสามีตรงๆ ว่า "ช่วงนี้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจจะหงุดหงิดง่ายหน่อยนะคะ" การบอกกล่าวล่วงหน้าจะช่วยให้คนรอบข้างเข้าใจและไม่เก็บอารมณ์ของเราไปคิดมากค่ะ

2. การพักผ่อนคือกุญแจสำคัญ
ความเหนื่อยล้าเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีของความหงุดหงิดค่ะ หาเวลางีบหลับสั้นๆ ระหว่างวัน (Nap) หรือเข้านอนให้เร็วขึ้น เมื่อร่างกายได้พักฟื้น จิตใจก็จะแจ่มใสขึ้นตามไปด้วยค่ะ

3. หากิจกรรมผ่อนคลายทำร่วมกัน
ลองชวนคุณสามีทำกิจกรรมเบาๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ เช่น

  • ดูภาพยนตร์ตลกหรือฟังเพลงสบายๆ
  • ฝึกโยคะสำหรับคนท้อง
  • ออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์

4. ดูแลตัวเองด้วย "อาหาร" และ "การออกกำลังกาย"
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขออกมาตามธรรมชาติ ช่วยลดความตึงเครียดได้ดีมากค่ะ

5. ขอความช่วยเหลือเมื่อไม่ไหว
หากรู้สึกว่ารับมือไม่ไหว หรืออารมณ์ดิ่งลงจนกระทบการใช้ชีวิต อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญนะคะ เพราะสุขภาพจิตของคุณแม่ส่งผลโดยตรงต่อลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

บทสรุป
ภาวะ อารมณ์แปรปรวนตอนท้อง เป็นเพียงช่วงเวลาชั่วคราวที่จะผ่านพ้นไปค่ะ สิ่งสำคัญคือความเข้าใจและการจับมือประคองกันไปของคนในครอบครัว หากผ่านจุดนี้ไปได้ ความสัมพันธ์ของทุกท่านจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ

 

ข้อควรระวัง (Disclaimer): บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพแม่และเด็กเท่านั้น เนื้อหาทั้งหมดไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากคุณแม่มีอาการผิดปกติ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพครรภ์ ควรปรึกษาและเข้ารับการตรวจจากสูตินรีแพทย์โดยตรง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของแม่และลูกน้อยค่ะ


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้