คนท้องปวดหัวบ่อย กินยาพาราได้ไหม? ปริมาณเท่าไหร่ถึงปลอดภัยกับลูก (พร้อมรายชื่อยาที่ "ห้ามกิน" เด็ดขาด)

Last updated: 10 ธ.ค. 2568  |  39 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คนท้องปวดหัวบ่อย กินยาพาราได้ไหม? ปริมาณเท่าไหร่ถึงปลอดภัยกับลูก (พร้อมรายชื่อยาที่ "ห้ามกิน" เด็ดขาด)

"ปวดหัวจังเลย... กินยาพาราได้ไหมนะ หรือต้องทนเพื่อลูก?"

นี่คือคำถามยอดฮิตที่คุณแม่ตั้งครรภ์ถามกันเข้ามาเยอะที่สุดเลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่ฮอร์โมนกำลังปั่นป่วน ทำให้คุณแม่มีอาการปวดหัว เวียนหัว หรือไมเกรนกำเริบได้ง่ายกว่าปกติ

คำตอบสั้นๆ คือ "กินได้ค่ะ" แต่! มันมีคำว่า "แต่" ตัวโตๆ ซ่อนอยู่ เพราะยาพาราเซตามอลแม้จะเป็นยาที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคนท้อง แต่ถ้ากินผิดวิธี หรือกินเกินขนาด ก็ส่งผลกระทบต่อตับของลูกน้อยได้เหมือนกัน วันนี้เรามาดูคู่มือการใช้ยาฉบับคุณแม่มือโปรกันค่ะ
 
Q&A: ฟันธงเรื่องยาพาราฯ
Q: คนท้องกินพาราเซตามอล (Paracetamol) ได้จริงไหม?
A: จริงค่ะ ยาพาราเซตามอลจัดอยู่ในกลุ่ม Category B (ยาที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง) สามารถกินได้ในทุกไตรมาส เมื่อมีอาการปวดหรือมีไข้

Q: กินได้สูงสุดกี่เม็ดต่อวัน?
A: แนะนำให้กิน "น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น" ค่ะ โดยปกติคือ:
  • ครั้งละ 1 เม็ด (500 มิลลิกรัม)
  • ห่างกันทุก 4-6 ชั่วโมง
  • ห้ามเกินวันละ 8 เม็ด (4,000 มิลลิกรัม) เด็ดขาด! แต่ทางที่ดีสำหรับคนท้อง พยายามอย่าเกินวันละ 4-5 เม็ดจะดีที่สุดค่ะ

เช็กลิสต์: ยาแก้ปวด "ที่ควรใช้" vs "ต้องห้าม"
คุณแม่ต้องระวังนะคะ ไม่ใช่ยาแก้ปวดทุกตัวจะกินได้ มาดูกันว่าตัวไหนคือมิตร ตัวไหนคือศัตรู

ชนิดยาชื่อยา (ตัวอย่าง)สถานะคนท้องผลข้างเคียงต่อลูก
พาราเซตามอลTylenol, Sara, Paracap✅ ปลอดภัยที่สุดแทบไม่มี (ถ้าไม่กินเกินขนาด)
NSAIDs (ยาต้านการอักเสบ)Ibuprofen, Ponstan, Gofen❌ ห้ามกิน! (โดยเฉพาะไตรมาส 3)เสี่ยงทำลายไตทารก, น้ำคร่ำน้อย, เส้นเลือดหัวใจลูกปิดก่อนกำหนด
แอสไพรินAspirin
❌ ห้ามกิน! (ยกเว้นแพทย์สั่ง)
 เสี่ยงเลือดออกผิดปกติในสมองเด็ก
ยารักษาไมเกรนCafergot ❌ ห้ามกินเด็ดขาด! ทำให้มดลูกบีบตัวรุนแรง เสี่ยงแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด

 ⚠️ จำไว้นะคะแม่ๆ: ถ้าปวดหัว ปวดฟัน ปวดหลัง ให้หยิบ "พาราเซตามอล" เท่านั้น! ถ้ากินพาราแล้วไม่หาย ห้ามไปซื้อยาตัวอื่นมากินเอง ต้องไปหาหมอทันทีค่ะ

สัญญาณเตือน: ปวดหัวแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปวดหัวธรรมดา!
ถ้าคุณแม่กินพาราไปแล้ว นอนพักก็แล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แถมมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วนๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณของ "ภาวะครรภ์เป็นพิษ" (Preeclampsia) ค่ะ

  1. ปวดหัวรุนแรงและต่อเนื่อง (กินยาก็ไม่หาย)
  2. ตาพร่ามัว เห็นแสงวิบวับ หรือเห็นจุดดำๆ ลอยไปมา
  3. บวมผิดปกติ โดยเฉพาะที่หน้า มือ และเท้า
  4. จุกแน่นลิ้นปี่ หรือปวดชายโครงขวา
  5. ความดันโลหิตสูง (ตัวบนเกิน 140 / ตัวล่างเกิน 90)

ภาวะครรภ์เป็นพิษอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก ต้องรีบรักษาทันทีค่ะ!

5 วิธีแก้ปวดหัว "แบบไม่พึ่งยา" (Natural Remedies)
ก่อนจะหยิบยาเข้าปาก ลองใช้วิธีธรรมชาติบำบัดดูก่อนนะคะ ดีต่อสุขภาพแม่และลูกที่สุดค่ะ

  1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ: เชื่อไหมคะว่าอาการปวดหัวส่วนใหญ่ของคนท้องเกิดจาก "ภาวะขาดน้ำ" (Dehydration) จิบน้ำบ่อยๆ ช่วยได้จริงค่ะ
  2. ประคบเย็น: ใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็ง ประคบที่ท้ายทอยหรือหน้าผาก จะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวและลดอาการปวดตุบๆ ได้
  3. นอนพักในห้องมืด: แสงจ้าและเสียงดังคือตัวกระตุ้นไมเกรนชั้นดี ลองปิดไฟ ปิดม่าน แล้วงีบสัก 1 ชั่วโมง อาการมักจะดีขึ้นค่ะ
  4. นวดเบาๆ: ให้คุณพ่อช่วยนวดคลึงเบาๆ ที่ขมับ ต้นคอ และไหล่ ช่วยคลายเครียดและลดกล้ามเนื้อตึงตัวได้
  5. อย่าปล่อยให้หิว: ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำก็ทำให้ปวดหัวได้ แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยๆ กินให้ตรงเวลา อย่าอดข้าวนะคะ

บทสรุป
การปวดหัวตอนท้องเป็นเรื่องทรมานที่เข้าใจได้ค่ะ คุณแม่ "สามารถกินพาราเซตามอลได้" อย่างสบายใจ ไม่ต้องรู้สึกผิด แต่ต้องกินอย่างมีสติ คือ "กินเฉพาะตอนปวด และหยุดกินเมื่อหาย"

สิ่งที่สำคัญกว่ายา คือการดูแลตัวเองค่ะ พักผ่อนให้พอ ดื่มน้ำให้ถึง แล้วร่างกายจะแข็งแรงสู้กับอาการปวดได้เอง สู้ๆ นะคะคุณแม่ อีกไม่นานก็ได้เจอหน้าเจ้าตัวเล็กแล้วค่ะ!

Disclaimer: บทความนี้ให้ข้อมูลการใช้ยาเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณแม่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้