วิธีเสริมแรงบวกให้ลูก

Last updated: 14 ส.ค. 2568  |  3 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีเสริมแรงบวกให้ลูก

มากกว่าคำชม! 7 วิธี 'เสริมแรงบวก' สร้าง Self-Esteem และนิสัยที่ดีให้ลูก
 
ในฐานะพ่อแม่ เราทุกคนต้องการมอบกำลังใจและสนับสนุนให้ลูกทำในสิ่งที่ดี และเครื่องมือที่เราใช้บ่อยที่สุดก็คือ "คำชม" แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมครับว่า "คำชม" ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป?

คำชมบางประเภท เช่น "หนูเก่งจังเลย" "เด็กดีที่สุด" แม้จะมาจากเจตนาที่ดี แต่อาจสร้างแรงกดดันให้ลูกต้อง "เก่ง" หรือ "ดี" ตลอดเวลา และทำให้เขายึดติดกับการยอมรับจากภายนอก

"การเสริมแรงบวก" (Positive Reinforcement) ที่แท้จริงนั้นลึกซึ้งกว่าการชมเชยทั่วไป มันคือการสื่อสารที่ช่วยให้ลูกรับรู้และภาคภูมิใจใน "การกระทำ" และ "ความพยายาม" ของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างวินัยและแรงจูงใจจากข้างใน (Intrinsic Motivation) ได้อย่างยั่งยืน

นี่คือ 7 เทคนิคที่จะอัปเกรด "คำชม" ของคุณให้กลายเป็นการเสริมแรงบวกที่ทรงพลัง

1. "ชมที่กระบวนการ" ไม่ใช่ "ชมที่ผลลัพธ์"
 

นี่คือหัวใจของการสร้าง Growth Mindset
     - แทนที่จะพูดว่า: "วาดรูปสวยจังเลย หนูเก่งจริงๆ" (ชมที่ผลลัพธ์และตัวตน)
     - ลองเปลี่ยนเป็น: "แม่เห็นเลยว่าลูกตั้งใจเลือกใช้สีมากๆ และพยายามลากเส้นอย่างสุดฝีมือ ความพยายามของลูกสุดยอดมากเลย" (ชมที่ความพยายามและกระบวนการ)
     - ทำไมถึงดีกว่า: เป็นการสอนให้ลูกรู้ว่าสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดคือ "ความพยายาม" ของเขา ซึ่งจะทำให้เขาไม่กลัวที่จะลองทำสิ่งที่ท้าทายในอนาคต
 
2. "บรรยาย" สิ่งที่เห็น แทนการ "ตัดสิน"
 

การบรรยายพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง จะทรงพลังกว่าการแปะป้ายว่า "ดี" หรือ "เก่ง"
     - แทนที่จะพูดว่า: "เป็นเด็กดีจังเลยลูก"
     - ลองเปลี่ยนเป็น: "พ่อเห็นนะว่าเมื่อกี๊น้องอยากได้ของเล่นชิ้นนั้น แต่ลูกก็เลือกที่จะแบ่งให้น้องเล่นก่อน"
     - ทำไมถึงดีกว่า: เป็นการบอกให้ลูกรู้ชัดเจนว่า "พฤติกรรมอะไร" ที่เราชื่นชม และเปิดโอกาสให้ลูกได้สรุปด้วยตัวเองว่า "การแบ่งปันคือสิ่งที่ดี"
 
3. "ขอบคุณ" ในความช่วยเหลือ

เป็นการแสดงให้เห็นว่าการกระทำของลูกมี "คุณค่า" และส่งผลดีต่อผู้อื่น
     - แทนที่จะพูดว่า: "ดีมากลูกที่ช่วยแม่ล้างจาน"
     - ลองเปลี่ยนเป็น: "ขอบใจมากนะลูกที่ช่วยล้างจาน มันช่วยให้แม่หายเหนื่อยไปเยอะเลย"
     - ทำไมถึงดีกว่า: เป็นการสร้างความรู้สึกว่าเขาคือสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวที่สามารถช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระได้ ซึ่งช่วยสร้างความรับผิดชอบและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)
 
4. "ถาม" ถึงความรู้สึกของลูก

เปลี่ยนจุดศูนย์กลางของความภาคภูมิใจจาก "เรา" ไปที่ "ตัวเขา"
     - แทนที่จะพูดว่า: "พ่อภูมิใจในตัวลูกมากที่สอบได้คะแนนดี"
     - ลองเปลี่ยนเป็น: "โห! พยายามมาขนาดนี้จนสอบได้คะแนนดีเยี่ยมเลย ลูกรู้สึกยังไงบ้าง? ต้องภูมิใจในตัวเองมากๆ แน่เลยใช่ไหม"
     - ทำไมถึงดีกว่า: เป็นการสอนให้ลูกรู้จักชื่นชมและภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง (Self-Esteem) โดยไม่ต้องรอการยอมรับจากคนอื่น
 
5. ใช้ "การให้รางวัลที่ไม่ใช่สิ่งของ"

การให้รางวัลที่ดีที่สุดคือ "เวลาคุณภาพ" และ "ประสบการณ์ร่วมกัน"
     - แทนที่จะพูดว่า: "ถ้าเก็บห้องเสร็จจะซื้อของเล่นให้"
     - ลองเปลี่ยนเป็น: "ถ้าเราช่วยกันเก็บห้องให้เสร็จเร็วๆ เราจะได้มีเวลาไปปั่นจักรยานที่สวนสาธารณะด้วยกันนานขึ้นนะ"
     - ทำไมถึงดีกว่า: สร้างเงื่อนไขที่เชื่อมโยงพฤติกรรมที่ดีเข้ากับความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ยั่งยืนกว่าวัตถุ
 
6. "ให้ความสนใจ" คือการเสริมแรงที่ดีที่สุด

ความสนใจเชิงบวกจากพ่อแม่คือสิ่งที่ลูกโหยหามากที่สุด
     - วิธีทำ: ในขณะที่ลูกกำลังนั่งทำการบ้านหรืออ่านหนังสืออย่างตั้งใจ ลองเดินเข้าไปเงียบๆ ลูบหัวเบาๆ หรือส่งยิ้มให้ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้คือการบอกเขาว่า "พ่อ/แม่เห็นนะว่าลูกกำลังตั้งใจอยู่ และชื่นชมมากๆ"
     - ทำไมถึงดีกว่า: เป็นการเสริมแรงพฤติกรรมที่ดีอย่างเป็นธรรมชาติและทรงพลัง
 
7. "จับถูก" ไม่ใช่ "จับผิด"

เป็นเรื่องง่ายที่เราจะเผลอให้ความสนใจลูกเฉพาะตอนที่เขาทำผิดหรือดื้อ
     - วิธีทำ: ตั้งเป้าหมายในแต่ละวันว่าเราจะพยายามมองหา "สิ่งดีๆ" ที่ลูกทำ แล้วใช้เทคนิคข้างต้นในการชื่นชมเขา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
     - ทำไมถึงดีกว่า: สร้างบรรยากาศเชิงบวกในบ้าน และทำให้ลูกรู้สึกว่าความดีและความพยายามของเขามีคนมองเห็น

การเสริมแรงบวกไม่ใช่แค่เทคนิคการเลี้ยงลูก แต่มันคือ "ภาษา" แห่งความรักและความเชื่อมั่นที่เรามีต่อลูก การใช้ภาษาเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยหล่อหลอมให้เขาเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความสุข, มั่นใจในคุณค่าของตัวเอง, และพร้อมที่จะทำสิ่งดีๆ ต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้