เปิดองค์ประกอบคะแนน! สอบเข้า ม.4 ใช้คะแนนอะไรบ้าง? (GPAX, O-NET, คะแนนสอบ)

Last updated: 30 ก.ค. 2568 | 130 จำนวนผู้เข้าชม |

เปิดองค์ประกอบคะแนน! สอบเข้า ม.4 ใช้คะแนนอะไรบ้าง? (GPAX, O-NET, คะแนนสอบ)

นอกเหนือจากการเตรียมความรู้เพื่อทำข้อสอบให้ได้คะแนนดีที่สุดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น้องๆ ม.3 และผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้เพื่อวางแผนกลยุทธ์ให้รอบด้านก็คือ "สูตรการคำนวณคะแนน" ที่โรงเรียนต่างๆ ใช้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.4

คะแนนสอบคัดเลือกอาจไม่ใช่คำตอบเดียวเสมอไป! บางโรงเรียนอาจนำคะแนนส่วนอื่นมาพิจารณาร่วมด้วย การเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้ว่าควรให้น้ำหนักกับอะไรเป็นพิเศษ

วันนี้ Tutorwa Channel จะมาแจกแจงองค์ประกอบคะแนนทั้งหมดที่ใช้ในการสอบเข้า ม.4 ให้น้องๆ ได้เห็นภาพชัดเจน

องค์ประกอบหลักที่ใช้ในการคัดเลือก
โดยทั่วไป เกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนเข้า ม.4 จะประกอบไปด้วยคะแนนจาก 2-4 ส่วนหลักๆ ดังนี้

1. คะแนนสอบคัดเลือก (Entrance Exam Score) - (สำคัญที่สุด!)
นี่คือคะแนนจากการทำข้อสอบวัดความรู้ในวิชาต่างๆ (เช่น คณิต, วิทย์, อังกฤษ, ไทย, สังคม) ที่โรงเรียนนั้นๆ จัดสอบขึ้นเอง

ความสำคัญ: สำหรับโรงเรียนแข่งขันสูงแทบทุกแห่ง คะแนนในส่วนนี้มี น้ำหนักมากที่สุด โดยอาจคิดเป็นสัดส่วนตั้งแต่ 70% ไปจนถึง 100% ของคะแนนทั้งหมดเลยทีเดียว
คำแนะนำ: การทุ่มเทเตรียมตัวเพื่อทำคะแนนสอบส่วนนี้ให้ได้สูงที่สุด คือหัวใจหลักของการสอบเข้า ม.4 คะแนนที่ดีเยี่ยมในส่วนนี้สามารถชดเชยคะแนนส่วนอื่นที่อาจจะน้อยไปได้

2. ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) - (ตัวชี้วัดความสม่ำเสมอ)
คือเกรดเฉลี่ยสะสมของน้องๆ ในระดับชั้น ม.ต้น (โดยโรงเรียนจะระบุในระเบียบการว่าใช้กี่ภาคเรียน เช่น 4 หรือ 5 ภาคเรียน)

ความสำคัญ: น้ำหนักของ GPAX จะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน
- บางแห่ง: อาจนำมาคิดเป็นสัดส่วนคะแนน 10% - 30%
- บางแห่ง (โดยเฉพาะโรงเรียนแข่งขันสูงมาก): อาจไม่นำมาคำนวณเป็นคะแนน แต่ใช้เป็น "คุณสมบัติขั้นต่ำ" ในการสมัครแทน เช่น "ผู้สมัครต้องมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00"
คำแนะนำ: อย่าทิ้งเกรดที่โรงเรียนเด็ดขาด! การรักษาเกรดให้ดีอยู่เสมอเปรียบเสมือนการสร้าง "แต้มต่อ" และแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความสม่ำเสมอของเรา

3. คะแนน O-NET - (สถานะในปัจจุบันที่ต้องตรวจสอบ)
O-NET (Ordinary National Educational Test) คือการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานที่นักเรียนชั้น ม.3 ทุกคนต้องสอบ

ความสำคัญ: ในอดีตคะแนน O-NET เคยถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การคัดเลือกอย่างแพร่หลาย แต่ใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นโยบายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้โรงเรียนชั้นนำส่วนใหญ่ "ไม่ได้นำคะแนน O-NET มาใช้" ในการคำนวณคะแนนสอบเข้าแล้ว
คำแนะนำ: ห้ามทึกทักเอาเองเด็ดขาด! แม้แนวโน้มส่วนใหญ่จะไม่ใช้แล้ว แต่บางโรงเรียนหรือบางโครงการอาจยังคงใช้เป็นเกณฑ์อยู่ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการอ่าน "ระเบียบการรับสมัคร" ของปีที่น้องๆ จะสอบ จากโรงเรียนเป้าหมายโดยตรง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ 100%

4. คะแนนสอบสัมภาษณ์ และ แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
สำหรับน้องๆ ที่ผ่านการสอบข้อเขียนไปแล้ว บางโรงเรียน (โดยเฉพาะห้องเรียนพิเศษ, โรงเรียนสาธิตฯ, หรือโรงเรียนเอกชน) อาจมีด่านการสอบสัมภาษณ์และอาจขอให้ยื่นแฟ้มสะสมผลงานด้วย

ความสำคัญ: โดยทั่วไปคะแนนส่วนนี้จะมีน้ำหนักไม่มาก หรืออาจเป็นแค่การพิจารณา "ผ่าน/ไม่ผ่าน" เพื่อดูทัศนคติ, บุคลิกภาพ, และความตั้งใจจริงของนักเรียน เป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้คณะกรรมการรู้จักเรามากขึ้น

แล้วสัดส่วนคะแนนเป็นอย่างไร?
ไม่มีสูตรตายตัว แต่สามารถแบ่งเป็นโมเดลคร่าวๆ ได้ดังนี้

โมเดล A (เน้นข้อสอบ 100%): พบในโรงเรียนแข่งขันสูงที่สุด เช่น เตรียมอุดมศึกษา, มหิดลวิทยานุสรณ์ ที่ใช้คะแนนสอบคัดเลือกเป็นตัวตัดสินเพียงอย่างเดียว (โดยมี GPAX เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการสมัคร)
โมเดล B (แบบผสม): พบในโรงเรียนรัฐบาลชั้นนำทั่วไป อาจใช้สูตร คะแนนสอบ 80% + GPAX 20%
โมเดล C (พิจารณาองค์รวม): พบในโรงเรียนสาธิตฯ หรือโรงเรียนทางเลือกบางแห่ง ที่อาจนำคะแนนทุกส่วนมาพิจารณาร่วมกัน

บทสรุป: แม้คะแนนสอบคัดเลือกจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเสมอ แต่การรักษาเกรดเฉลี่ย (GPAX) ให้อยู่ในระดับที่ดีก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเหนือสิ่งอื่นใด "การอ่านระเบียบการรับสมัครของโรงเรียนเป้าหมายในปีนั้นๆ คือคำตอบสุดท้ายและถูกต้องที่สุด"