TCAS คืออะไร? อธิบายทุกรอบ ทุกขั้นตอนสำหรับ #dek68 และ #dek69

Last updated: 14 ก.ค. 2568  |  260 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TCAS คืออะไร? อธิบายทุกรอบ ทุกขั้นตอนสำหรับ #dek68 และ #dek69

TCAS คืออะไร? สรุปครบจบในที่เดียว ทุกรอบ ทุกขั้นตอน สำหรับ #dek68 #dek69

สวัสดีน้องๆ ม.ปลาย โดยเฉพาะ #dek68 และ #dek69 ทุกคนค่ะ! พี่ๆ ทีมงาน Tutorwa Channel รู้ดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่น้องๆ หลายคนคงเริ่มใจตุ้มๆ ต่อมๆ กับเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต ม.ปลาย นั่นก็คือ "การสอบเข้ามหาวิทยาลัย" และแน่นอนว่าคำที่ได้ยินบ่อยจนแทบจะฝันถึงก็คือ "TCAS"

บางคนอาจจะยังงงๆ สับสนว่า TCAS คืออะไรกันแน่? มีกี่รอบ? แล้วแต่ละรอบต่างกันยังไง? เราต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?

ไม่ต้องกังวลไปค่ะ! บทความนี้พี่ๆ จะมาเป็นไกด์ไขทุกข้อสงสัย สรุปให้แบบเคลียร์ๆ ครบทุกขั้นตอน จบในที่เดียว อ่านบทความนี้จบน้องๆ จะเห็นภาพรวมทั้งหมดและวางแผนเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจแน่นอน พร้อมแล้วไปลุยกันเลย!

TCAS คืออะไรกันแน่?

TCAS ย่อมาจาก Thai University Central Admission System หรือ "ระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา" พูดง่ายๆ ก็คือ ระบบกลางที่ ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย) สร้างขึ้นมาเพื่อให้น้องๆ ทุกคนใช้เป็นช่องทางหลักในการยื่นคะแนนเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยนั่นเองค่ะ

หัวใจหลักของ TCAS คือการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม และที่สำคัญคือน้องๆ มีสิทธิ์ยืนยันเลือกเรียนได้เพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาการกั๊กที่เรียนในปีก่อนๆ

เจาะลึก TCAS ทั้ง 4 รอบ: เลือกทางที่ใช่สำหรับเรา

ระบบ TCAS แบ่งการคัดเลือกออกเป็น 4 รอบใหญ่ๆ แต่ละรอบมีคุณสมบัติและวิธีการคัดเลือกที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่ารอบไหนที่ "ใช่" สำหรับเราที่สุด

รอบที่ 1: Portfolio (รอบแฟ้มสะสมผลงาน)

คืออะไร?: เป็นรอบสำหรับน้องๆ ที่มีความสามารถพิเศษโดดเด่น มีผลงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่อยากเข้า และมีการเตรียมตัวมาอย่างดี รอบนี้จะ ไม่ใช้คะแนนสอบวัดความรู้ อย่าง TGAT/TPAT หรือ A-Level เลย แต่จะคัดเลือกจาก "แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)" 10 หน้า และการสัมภาษณ์เป็นหลัก

เหมาะกับใคร?:
น้องๆ ที่มีผลงานโดดเด่น เช่น แข่งขันชนะเลิศระดับประเทศ/นานาชาติ, มีผลงานตีพิมพ์, เข้าร่วมค่าย สอวน. หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณะอย่างสม่ำเสมอ
น้องๆ ที่ค้นพบตัวเองเร็ว รู้ว่าอยากเข้าคณะอะไร และเริ่มสร้างโปรไฟล์มาตั้งแต่ ม.4-ม.5

ต้องใช้อะไรบ้าง?:
แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ที่รวบรวมผลงาน เกียรติบัตร และกิจกรรมที่โดดเด่น
ผลการเรียน (GPAX) ตามที่คณะ/มหาวิทยาลัยกำหนด
อาจมีเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น จดหมายแนะนำ (Recommendation Letter)
หัวใจสำคัญ: "ผลงานต้องปังและตรงกับคณะ" การเล่าเรื่อง (Storytelling) ในพอร์ตคือสิ่งสำคัญที่สุด

รอบที่ 2: Quota (รอบโควตา)

คืออะไร?: รอบสำหรับน้องๆ ที่มีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น โควตานักเรียนในพื้นที่, โควตาโรงเรียนเครือข่าย, โควตานักกีฬา, โควตาความสามารถพิเศษต่างๆ

เหมาะกับใคร?:
น้องๆ ที่อยู่ในจังหวัดหรือภูมิภาคที่มหาวิทยาลัยกำหนด
น้องๆ ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเครือข่ายของมหาวิทยาลัยนั้นๆ
น้องๆ ที่มีความสามารถพิเศษ เช่น ด้านกีฬา ดนตรี ศิลปะ

ต้องใช้อะไรบ้าง?:
ผลการเรียน (GPAX)
คะแนนสอบ TGAT/TPAT และบางครั้งอาจมี A-Level (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโครงการ)
คุณสมบัติเฉพาะตามที่โควตากำหนด (เช่น ทะเบียนบ้าน)
หัวใจสำคัญ: "เช็กคุณสมบัติตัวเองให้ดี" เพราะเป็นรอบที่มีเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงสูงมาก

รอบที่ 3: Admission (รอบแอดมิชชั่น)

คืออะไร?: นี่คือ "รอบสนามใหญ่" ที่น้องๆ ส่วนใหญ่ในประเทศจะแข่งขันกันในรอบนี้ เป็นรอบที่เปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศและใช้คะแนนสอบกลางเป็นเกณฑ์ตัดสิน 100% มีการจัดอันดับเลือกคณะได้สูงสุด 10 อันดับ

เหมาะกับใคร?:
เหมาะสำหรับน้องๆ ทุกคน โดยเฉพาะคนที่มุ่งมั่นกับการทำคะแนนสอบ
คนที่อาจจะยังไม่มีผลงานโดดเด่นในรอบ 1 หรือคุณสมบัติไม่ตรงกับรอบ 2

ต้องใช้อะไรบ้าง?:
ผลการเรียน (GPAX)
คะแนน TGAT/TPAT
คะแนน A-Level
หัวใจสำคัญ: "คะแนนสอบคือทุกสิ่ง" และ "การจัด 10 อันดับอย่างมีกลยุทธ์" คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

รอบที่ 4: Direct Admission (รอบรับตรงอิสระ)
 
คืออะไร?: เป็นรอบเก็บตกรอบสุดท้าย มหาวิทยาลัยที่มีที่นั่งเหลือจาก 3 รอบแรก จะเปิดรับสมัครด้วยเกณฑ์ของตัวเองโดยตรง

เหมาะกับใคร?:
น้องๆ ที่ยังไม่มีที่เรียนจาก 3 รอบแรก

ต้องใช้อะไรบ้าง?:
เกณฑ์การคัดเลือกจะแตกต่างกันไปในแต่ละคณะ/มหาวิทยาลัย บางที่อาจใช้ GPAX, คะแนน TGAT/TPAT/A-Level ที่มีอยู่ หรืออาจจัดสอบเอง
หัวใจสำคัญ: "ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด" เพราะแต่ละที่จะเปิดรับสมัครไม่พร้อมกันและมีเวลารับสมัครสั้นมาก

ศัพท์ต้องรู้ในโลก TCAS

  • TGAT (Thai General Aptitude Test): การสอบวัดความถนัดทั่วไป มี 3 ส่วนคือ ภาษาอังกฤษ, การคิดอย่างมีเหตุผล, สมรรถนะการทำงาน (ใช้แทบทุกคณะ)
  • TPAT (Thai Professional Aptitude Test): การสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ มีตั้งแต่ TPAT1-TPAT5 สำหรับกลุ่มคณะเฉพาะทาง เช่น แพทย์, วิศวะ, สถาปัตย์, ครุศาสตร์
  • A-Level (Applied Knowledge Level): การสอบวัดความรู้เชิงวิชาการตามหลักสูตร ม.ปลาย มีวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ, อังกฤษ, ไทย, สังคม
  • GPAX: เกรดเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย
  • myTCAS: เว็บไซต์กลาง (mytcas.com) ที่น้องๆ ต้องเข้าไปลงทะเบียน สมัครสอบ จัดอันดับ และยืนยันสิทธิ์

สรุปส่งท้าย: วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

TCAS อาจจะดูซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วมันคือระบบที่มีขั้นตอนชัดเจน การเข้าใจภาพรวมของทั้ง 4 รอบจะช่วยให้น้องๆ #dek68 และ #dek69 มองเห็นเส้นทางของตัวเองและวางแผนเตรียมตัวได้ถูกจุด

  • ค้นหาตัวเองให้เจอ: เราถนัดอะไร ชอบอะไร เพื่อเล็งคณะและรอบที่เหมาะสม
  • วางแผนอ่านหนังสือ: จัดตารางเวลาสำหรับวิชา A-Level และการฝึกทำโจทย์ TGAT/TPAT
  • ติดตามข่าวสาร: กดติดตามเพจของ ทปอ. myTCAS และเว็บ tutorwa-channel ของเราไว้เลย!


พี่ๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้น้องๆ เข้าใจระบบ TCAS มากขึ้นนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัยตรงไหน คอมเมนต์ถามไว้ได้เลย พี่ๆ พร้อมตอบเสมอค่ะ!

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ #dek68 #dek69 อ่านกันนะ! และรอติดตามบทความเจาะลึก TGAT, TPAT, และ A-Level จากเราได้เร็วๆ นี้ค่ะ!


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้