Last updated: 22 มิ.ย. 2568 | 3 จำนวนผู้เข้าชม |
เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเวลาเราฟังเจ้าของภาษาพูดในหนังหรือในชีวิตจริง พวกเขามักจะใช้คำกริยาง่ายๆ บวกกับคำบุพบท (เช่น on, off, up, down) ที่พอรวมกันแล้วความหมายเปลี่ยนไปเลย? คำเหล่านี้เรียกว่า "Phrasal Verbs" (กริยาวลี) และมันคือหัวใจของบทสนทนาในชีวิตประจำวัน
การเรียนรู้ Phrasal Verbs จะทำให้คุณเข้าใจภาษาอังกฤษในบริบทจริงได้ดีขึ้น และช่วยให้การพูดของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อเหมือนในตำราเรียน วันนี้ www.tutorwa-channel.com ได้รวบรวม Phrasal Verbs ที่ใช้บ่อยที่สุดมาให้แล้ว ลองมาดูกันเลยครับ!
กลุ่มที่ 1: กริยาพื้นฐานในชีวิตประจำวัน
Get up
คำอ่าน: (เก็ท อัพ)
ความหมาย: ตื่นนอน, ลุกขึ้น
ตัวอย่างประโยค: I get up at 6 AM every morning.
คำแปลประโยค: ฉันตื่นนอนตอน 6 โมงเช้าทุกวัน
2. Turn on / Turn off
คำอ่าน: (เทิร์น ออน / เทิร์น ออฟ)
ความหมาย: เปิด / ปิด (เครื่องใช้ไฟฟ้า)
ตัวอย่างประโยค: Please turn off the lights when you leave the room.
คำแปลประโยค: กรุณาปิดไฟเมื่อคุณออกจากห้อง
3. Give up
คำอ่าน: (กิฟว อัพ)
ความหมาย: ยอมแพ้, ล้มเลิก
ตัวอย่างประโยค: Don't give up on your dreams.
คำแปลประโยค: อย่ายอมแพ้ต่อความฝันของคุณ
4. Go on
คำอ่าน: (โก ออน)
ความหมาย: ดำเนินต่อไป, ทำต่อไป
ตัวอย่างประโยค: The show must go on.
คำแปลประโยค: การแสดงต้องดำเนินต่อไป
5. Eat out
คำอ่าน: (อีท เอาท์)
ความหมาย: ไปทานข้าวนอกบ้าน
ตัวอย่างประโยค: We decided to eat out tonight.
คำแปลประโยค: พวกเราตัดสินใจไปทานข้าวนอกบ้านคืนนี้
กลุ่มที่ 2: การค้นหาและดูแล
6. Look for
คำอ่าน: (ลุค ฟอร์)
ความหมาย: มองหา, ค้นหา
ตัวอย่างประโยค: I am looking for my keys.
คำแปลประโยค: ฉันกำลังมองหากุญแจของฉันอยู่
7. Look after
คำอ่าน: (ลุค อาฟ-เตอร์)
ความหมาย: ดูแล
ตัวอย่างประโยค: Can you look after my cat this weekend?
คำแปลประโยค: คุณช่วยดูแลแมวของฉันสุดสัปดาห์นี้ได้ไหม?
8. Find out
คำอ่าน: (ไฟนดฺ เอาท์)
ความหมาย: ค้นพบ (ความจริง), สืบหาข้อมูล
ตัวอย่างประโยค: I need to find out what time the train leaves.
คำแปลประโยค: ฉันต้องหาข้อมูลว่ารถไฟออกกี่โมง
กลุ่มที่ 3: การจัดการและแก้ไข
9. Work out
คำอ่าน: (เวิร์ค เอาท์)
ความหมาย: 1. ออกกำลังกาย 2. แก้ปัญหาได้สำเร็จ, เป็นไปด้วยดี
ตัวอย่างประโยค:I work out at the gym three times a week. (ฉันออกกำลังกายที่ยิมสัปดาห์ละสามครั้ง)
Don't worry, everything will work out. (ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี)
10. Figure out
คำอ่าน: (ฟิก-เกอร์ เอาท์)
ความหมาย: คิดออก, หาคำตอบ, ทำความเข้าใจ
ตัวอย่างประโยค: I can't figure out how to solve this problem.
คำแปลประโยค: ฉันคิดไม่ออกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
11. Clean up
คำอ่าน: (คลีน อัพ)
ความหมาย: ทำความสะอาด (ให้เรียบร้อย)
ตัวอย่างประโยค: It's time to clean up your room.
คำแปลประโยค: ได้เวลาทำความสะอาดห้องของเธอแล้วนะ
12. Break down
คำอ่าน: (เบรค ดาวน์)
ความหมาย: 1. (เครื่องจักร) เสีย, พัง 2. (อารมณ์) สติแตก, ร้องไห้ฟูมฟาย
ตัวอย่างประโยค:My car broke down on the way to work. (รถของฉันเสียระหว่างทางไปทำงาน)
She broke down in tears. (เธอร้องไห้ฟูมฟายออกมา)
กลุ่มที่ 4: การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์
13. Call back
คำอ่าน: (คอล แบค)
ความหมาย: โทรกลับ
ตัวอย่างประโยค: I'm busy right now. Can I call you back later?
คำแปลประโยค: ตอนนี้ฉันไม่ว่าง ขอโทรกลับหาคุณทีหลังได้ไหม?
14. Get along with
คำอ่าน: (เก็ท อะ-ลอง วิธ)
ความหมาย: เข้ากันได้ดีกับ...
ตัวอย่างประโยค: I get along well with all of my colleagues.
คำแปลประโยค: ฉันเข้ากับเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ดี
15. Run into / Come across
คำอ่าน: (รัน อิน-ทู / คัม อะ-ครอส)
ความหมาย: เจอโดยบังเอิญ
ตัวอย่างประโยค: I ran into an old friend at the supermarket.
คำแปลประโยค: ฉันบังเอิญเจอเพื่อนเก่าที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
กลุ่มที่ 5: การเดินทาง
16. Check in / Check out
คำอ่าน: (เช็ค อิน / เช็ค เอาท์)
ความหมาย: ลงทะเบียนเข้าพัก (โรงแรม, สนามบิน) / แจ้งออกจากที่พัก
ตัวอย่างประโยค: We need to check out of the hotel before 12 PM.
คำแปลประโยค: เราต้องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมก่อนเที่ยง
17. Take off
คำอ่าน: (เทค ออฟ)
ความหมาย: 1. (เครื่องบิน) บินขึ้น 2. ถอด (เสื้อผ้า)
ตัวอย่างประโยค:The plane will take off in ten minutes. (เครื่องบินจะขึ้นในอีกสิบนาที)
Please take off your shoes before entering. (กรุณาถอดรองเท้าก่อนเข้า)
18. Get on / Get off
คำอ่าน: (เก็ท ออน / เก็ท ออฟ)
ความหมาย: ขึ้น / ลง (จากยานพาหนะสาธารณะ เช่น รถบัส, รถไฟ)
ตัวอย่างประโยค: You need to get off at the next bus stop.
คำแปลประโยค: คุณต้องลงที่ป้ายรถเมล์ถัดไป
เคล็ดลับพิเศษ: Phrasal Verbs แบบ "แยกได้" และ "แยกไม่ได้"
ข้อควรระวังคือ Phrasal Verbs บางตัวสามารถเอา "กรรม (Object)" มาแทรกตรงกลางได้ (Separable) แต่บางตัวทำไม่ได้ (Inseparable)
แบบแยกได้ (Separable): Turn off the light. หรือ Turn the light off. (ความหมายเหมือนกัน)
แบบแยกไม่ได้ (Inseparable): Look for my keys. (พูดว่า Look my keys for ไม่ได้)
วิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกตและจดจำจากการใช้งานจริงครับ
Phrasal Verbs เป็นเหมือนสีสันของภาษาอังกฤษ การเรียนรู้และนำไปใช้จะทำให้บทสนทนาของคุณดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก ลองสังเกตคำเหล่านี้ในหนัง เพลง หรือบทความต่างๆ แล้วลองนำไปใช้ดูนะครับ!
Phrasal Verb ตัวไหนที่คุณคิดว่าเจอบ่อยที่สุด? คอมเมนต์บอกกันหน่อย! และในบทความหน้า เราจะไปทำความรู้จักกับ "Idioms (สำนวน)" ที่จะทำให้ภาษาอังกฤษของคุณเท่ขึ้นไปอีกระดับ!
24 มิ.ย. 2568