จะสอบกลางภาค ปลายภาค สอบเข้าโรงเรียน หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าจะเยอะขนาดนี้ ที่พึ่งทางใจเราคงต้องมา
มีความเชื่อมากมาย เกี่ยวกับการสอบเพื่อนำโชคเสริมดวงชะตาอยู่เหมือนกัน ว่ากันว่าถ้าทำตามคะแนนจะดีขึ้นทันตาเห็น ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ไปดูกันเลย!
สนามสอบก็เหมือนสนามรบก็ไม่ปาน ต้องตัดไม้ข่มนาม ก็คงไม่ต้องถึงขนาดทุบหม้อข้าว เพราะน่าจะโดนแม่ทุบซะมากกว่า ปกติเราก็นำฤกษ์นำชัยด้วยการกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ อธิษฐานต่อพระเจ้า หรือพิธีกรรมอื่นๆตามความเชื่อของเรา เพื่อขอให้ท่านช่วยดลบันดาลให้ทำข้อสอบได้โดยราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง
หรือน้องๆที่เป็นสายมูตัวจริง อาจจะไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆตามคำร่ำลือ หรือสถานที่ยอดฮิตก็คือโรงเรียนหรือสนามสอบของเรานั่นเองค่ะ ขอให้เราได้เข้ามาเรียนที่นี่เถอะ เพี้ยง!
ดังคำกล่าวที่ว่า "พ่อแม่คือพระในบ้าน" ก่อนเข้าสู่สนามสอบ เราก็ขอพร ขอกำลังใจจาก คุณพ่อ คุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่เรานับถือ น้องๆ หลายคนเลยมีวิธีน่ารักๆ มาปฏิบัติต่อคุณพ่อคุณแม่ในวันสอบเลยค่ะ น้องๆบางคนไม่เคยทำก็อาจจะมีเขิลๆกันบ้าง แต่การันตีแล้วว่าวิธีนี้ทั้งเรียกโชคและพลังใจก่อนสอบได้อย่างสุดติ่งทีเดียว
หนังสือหรือตำราเรียน เปรียบเสมือนครูผู้มอบความรู้ให้แก่เรา และเด็กไทยอย่างเราก็ค่อยข้างมีความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อหนังสือ เช่นไม่เดินข้าม ไม่ทำให้หนังสือเรียนยับ ขาด หรือสกปรก (ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่น่ารักทีเดียว ^^ ) ช่วงใกล้สอบอย่างนี้ บางคนก็ถือโอกาสกราบงามๆ 3 ที หวังว่าหนังสือจะเห็นแก่ความพยายามของเราที่ผ่านมา ช่วยให้เราประสบความสำเร็จ
บางคนอาจจะใช้หนุนนอนแทนหมอนเพื่อซึมซับวิชาความรู้ ถ้ากลัวไม่เข้าจริงๆบางคนเลือกต้มกินก็มี ซึ่งแบบหลังนี่ก็ไม่แน่ใจว่าเคล็ด หรือแค้น ประมาณว่าทำไมมันยากขนาดนี้ แงงงง....... เอาน่า ฝ่าฟันมาขนาดนี้ ความสำเร็จต้องเป็นของคนที่พยายามสิน่า
การพกพาสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อว่าจะนำโชคให้เราติดตัวไว้ นี่สิสายมูตัวจริง แต่ก็ต้องระวังเรื่องข้อห้ามของสนามสอบด้วยนะคะ ว่าห้ามนำสิ่งใดเข้าไปรึเปล่า เดี๋ยวไปถูกห้ามหน้าห้องสอบ จะรู้สึกเฟลและเสียความมั่นใจไป อาจจะพบเป็น ปากกาหรือดินสอนำโชค สร้อยพระ แต่ซองเครื่องราง หรืออะไรที่เป็นกระดาษเราควรเว้นไว้เนอะ เพราะมันเหมือนโพยอยู่น้า
และถ้าน้องๆบอกว่า หนังสือคงนำโชคสุดแล้ว แต่พี่ๆที่เข้าสอบแบบ Open Book มาก่อน จะบอกเสมอว่า ไม่ช่วยเลยจ้า! เพราะถึงเวลาก็หาไม่เจอ T-T และความจริงข้อสอบก็จะวัดความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ เราก็ควรทำความเข้าใจในบทเรียนนั้นๆมากกว่าจ้า
สีเขียวเหนี่ยวคะแนนต้องมาแล้วงานนี้ แต่ชุดเข้าสอบก็เป็นน้ำเงินดำบ้าง ขาวดำบ้าง เชื่อว่าน้องๆต้องจัดนิดๆหน่อยๆติดตัวไปได้แน่นอนค่ะ จะเป็นโบว์ผูกผม สายนาฬิกา ก็เสริมความมั่นใจและกำลังใจเราได้นะ
มีความเชื่อหลายๆอย่างเกี่ยวกับอาหาร อาทิเช่น การทานหมู หรือทานกล้วย ทุกอย่างจะได้ หมูๆ หรือกล้วยๆ หรือหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง เช่น ไข่ เพราะเหมือนเลขศูนย์ หรือกินแห้ว แล้วเดี๋ยวจะแห้ว
แต่ที่แน่ๆ น้องๆควรทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น บำรุงสมอง บำรุงสายตา และการทานอาหารที่แปลกไปจากปกติ หรือเราแพ้ ก็น่าจะให้ผลลัพท์ที่แย่กว่าในวันสอบนะคะ ถ้าปวดท้องหรือท้องเสียเพราะทานของที่ไม่คุ้นเนี่ย ไม่เวิร์คแน่ๆ ต้องระวังเรื่องนี้ด้วยนะ
เคล็ดลับนี้อาจจะฟังดูแปลกๆนิดนึง แต่มีคนถือเคล็ดว่า 'ขอไม่สระผมสัก 1 สัปดาห์' เพราะหากเราสระผมในช่วงสอบความเย็นของสายน้ำจะพัดพาความรู้ที่เราสั่งสมมาให้ถูกชะล้างออกไป พอสระผมเสร็จเราจะจำอะไรไม่ได้เลย
วิธีนี้ถ้าน้องๆไม่ได้สระผมเป็นอาทิตย์เป็นปกติก็อาจจะเอามาใช้เสริมความมั่นใจในช่วงนี้ได้เลย แต่ถ้าปกติเราผมมัน เหงื่อเยอะต้องสระผมเป็นประจำ การไม่สบายตัวจากการไม่สระผม อาจจะทำให้เราไม่มีสมาธิในสนามสอบได้นะ วิธีนี้พี่ว่าเหมาะกับบางคนเท่านั้นนะจ๊ะ
ตามคติความเชื่อแต่โบราณว่ากันว่า "ขวาคือมงคล ซ้ายคืออวมงคล" น้องๆ จึงเลือกที่จะก้าวเท้าขวาซึ่งเป็นมงคลเข้าไปเอาฤกษ์เอาชัยก่อน ส่วนน้องบางคนที่เลือกเท้าขวาแล้วยังเดินถอยหลังเข้าห้องสอบด้วยนั้น อาจเป็นเพราะเคยมีนักวิชาการให้ข้อพิสูจน์มาว่าการเดินถอยหลังช่วยให้ความคิดเฉียบแหลมนั่นเอง ความเชื่อนี้ก็ดูมีที่มาที่ไป และทำได้ไม่ยากด้วย อ๊ะ... ถ้าเห็นเพื่อนๆเดินเข้าห้องสอบแปลก ก็ไม่ต้องงงแล้วทีนี้
เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ เป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่เรา เพื่อลดความประหม่า ในการสอบ การที่เรามีสมาธิทำให้เราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดียิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นเคล็ดลับในทุกสนามสอบ คือ การเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการอ่านหนังสือ ทบทวนทำความเข้าใจบทเรียน ฝึกฝนทำโจทย์ปัญหาและข้อสอบต่างๆ แล้วโชคก็จะเป็นของเรานะคะ