ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia): อาการบวมที่ห้ามวางใจ อันตรายถึงชีวิต รู้ทันก่อนสาย!

Last updated: 11 ธ.ค. 2568  |  19 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia): อาการบวมที่ห้ามวางใจ อันตรายถึงชีวิต รู้ทันก่อนสาย!

ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia): ภัยเงียบที่มากับอาการบวม...ที่คุณแม่ห้ามวางใจเด็ดขาด!
แม่ๆ คะ เคยได้ยินคำว่า "ครรภ์เป็นพิษ" กันไหมคะ? หลายคนอาจคิดว่า "อ๋อ ก็แค่คนท้องขาบวม เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?" แอดมินขอบอกเลยว่า "ไม่ปกติและอันตรายมาก!" ค่ะ

เพราะครรภ์เป็นพิษ ไม่ใช่แค่เรื่องบวม แต่เป็นภาวะความผิดปกติที่รุนแรงของระบบหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายแม่ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่การชัก น้ำท่วมปอด ไตวาย ตับวาย และ "เสียชีวิต" ได้ทั้งแม่และลูกในท้องเลยนะคะ! น่ากลัวมาก!

วันนี้เรามาทำความรู้จักภัยเงียบตัวนี้กันให้ชัดๆ จะได้สังเกตตัวเองและรับมือได้ทันค่ะ

ครรภ์เป็นพิษ คืออะไร? (ทำไมถึงอันตราย?)
อธิบายง่ายๆ คือ เป็นภาวะที่ "ความดันโลหิตของแม่พุ่งสูงขึ้น" อย่างผิดปกติ (ตั้งแต่ 140/90 มม.ปรท. ขึ้นไป) ร่วมกับมี "โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ" ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ไปแล้ว

สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของรก ทำให้เลือดไปเลี้ยงรกไม่พอ ร่างกายแม่เลยต้องปรับตัวด้วยการเพิ่มความดันเลือด จนไปกระทบการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ ทั้งไต ตับ สมอง และหัวใจ

5 สัญญาณอันตราย! ที่บอกว่า "ไม่ใช่แค่บวมธรรมดา" (ต้องรีบไป รพ. ทันที!)
แม่ท้องหลายคนมักมีอาการบวมที่เท้าช่วงใกล้คลอด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าบวมแบบนี้...ให้รีบไปหาหมอค่ะ!

1. บวมผิดปกติ (บวมเร็ว บวมเยอะ บวมไม่ยุบ)

  • บวมที่หน้าและมือ: ไม่ใช่แค่เท้าบวม แต่หน้าบวมฉุ เปลือกตาบวม นิ้วมือบวมจนถอดแหวนไม่ออก
  • น้ำหนักตัวพุ่งพรวด: น้ำหนักขึ้นเร็วมาก (เช่น ขึ้น 1-2 กิโลฯ ภายในสัปดาห์เดียว) เพราะมีน้ำคั่งในร่างกาย
  • นอนพักแล้วไม่ยุบ: ปกติถ้าแค่บวมธรรมดา นอนยกขาสูงสักพักก็จะดีขึ้น แต่ถ้าเป็นครรภ์เป็นพิษ นอนพักยังไงก็ไม่ยุบค่ะ

2. ปวดศีรษะรุนแรง (กินยาก็ไม่หาย)
ปวดตื้อๆ หรือปวดตุบๆ บริเวณขมับ ท้ายทอย หรือหน้าผาก กินยาแก้ปวดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น

3. ตาพร่ามัว มองเห็นแสงวูบวาบ
มองเห็นไม่ชัด เหมือนมีหมอกบัง หรือเห็นแสงไฟแวบๆ คล้ายแสงแฟลช (เกิดจากสมองบวมหรือจอประสาทตามีปัญหา)

4. จุกแน่นลิ้นปี่ หรือปวดชายโครงขวา
อาการนี้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นโรคกระเพาะ แต่จริงๆ แล้วเกิดจากตับบวมหรือมีเลือดออกที่ตับ ซึ่งอันตรายมาก!

5. ลูกดิ้นน้อยลง
เพราะเลือดไปเลี้ยงรกไม่พอ ทำให้ลูกขาดออกซิเจนและสารอาหาร

ใครบ้างที่เสี่ยงสูง? (กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ)

  • ท้องแรก หรือท้องตอนอายุมาก (35 ปีขึ้นไป) หรืออายุน้อยมาก (ต่ำกว่า 18 ปี)
  • มีประวัติครรภ์เป็นพิษในท้องก่อน หรือมีคนในครอบครัวเคยเป็น
  • มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง, โรคไต, เบาหวาน, SLE
  • ครรภ์แฝด
  • น้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์เกินเกณฑ์ (อ้วน)

บทสรุปจากแอดมิน: กันไว้ดีกว่าแก้!
ครรภ์เป็นพิษเป็นภาวะที่ป้องกันไม่ได้ 100% แต่เราสามารถ "ลดความรุนแรง" ได้ค่ะ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ไปฝากครรภ์ตามนัดทุกครั้ง" ห้ามขาด! เพราะคุณหมอจะคอยวัดความดันและตรวจปัสสาวะเพื่อเฝ้าระวังให้เรา และถ้าแม่ๆ คนไหนมีอาการผิดปกติ 1 ใน 5 ข้อที่บอกไป "ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอนัด" นะคะ

ความปลอดภัยของแม่และลูก สำคัญที่สุดค่ะ!

ข้อควรระวัง (Disclaimer): บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพแม่และเด็กเท่านั้น เนื้อหาทั้งหมดไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากคุณแม่มีอาการผิดปกติ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพครรภ์ ควรปรึกษาและเข้ารับการตรวจจากสูตินรีแพทย์โดยตรง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของแม่และลูกน้อยค่ะ



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้