วิชาภาษาอังกฤษ ถือเป็น "ยาขม" ของน้องๆ ป.6 หลายคน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็น "วิชาทำคะแนน" ที่ใช้ตัดสินชี้วัดสำหรับเด็กที่ต้องการเข้าห้องเรียนพิเศษ (EP, Gifted) หรือโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงค่ะ เพราะคะแนนเฉลี่ยวิชานี้มักจะไม่สูงมาก ใครทำได้ดีจะสร้างความแตกต่างได้เยอะ
ปัญหาคือ เนื้อหาภาษาอังกฤษมันกว้างมาก! จะเริ่มอ่านตรงไหนดี? วันนี้ทีมงาน Tutorwa ได้วิเคราะห์แนวข้อสอบย้อนหลัง และสรุปออกมาเป็น "หัวข้อ SOS" ที่ออกสอบบ่อยที่สุด ทั้งพาร์ทคำศัพท์และไวยากรณ์ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง!
Part 1: Vocabulary (คำศัพท์) หมวดไหนต้องรู้?
ข้อสอบส่วนใหญ่จะวัดคำศัพท์ผ่านการเติมคำในช่องว่าง (Cloze Test), บทสนทนา (Conversation) และการอ่านจับใจความ (Reading) ค่ะ ระดับความยากจะอยู่ที่ ป.6 - ม.2
3 หมวดคำศัพท์ที่ออกบ่อยที่สุด:
1. หมวดชีวิตประจำวัน & โรงเรียน (Everyday Life & School):
- คำนาม: stationery (เครื่องเขียน), timetable (ตารางสอน), canteen (โรงอาหาร), subject (วิชา), homework, assignment
- กริยา: borrow/lend (ยืม/ให้ยืม), study, learn, review, prepare
- Adjective: diligent (ขยัน), difficult, easy, boring, interesting
2. หมวดสถานที่ & การเดินทาง (Places & Transportation):
- สถานที่: museum, library, aquarium, amusement park, department store
- การบอกทาง: turn left/right, go straight, opposite (ตรงข้าม), next to, between, behind
- ยานพาหนะ: vehicle, passenger (ผู้โดยสาร), fare (ค่าโดยสาร), traffic jam
3. หมวดสุขภาพ & ความรู้สึก (Health & Feelings):
- อาการเจ็บป่วย: headache, stomachache, fever (ไข้), cough (ไอ), sore throat (เจ็บคอ)
- ความรู้สึก: excited, disappointed (ผิดหวัง), confused (สับสน), worried, proud
- คำแนะนำ: should See a doctor, take medicine, get some rest
Tip: อย่าท่องแค่ความหมาย ให้ดู "Collocation" (คำที่มักใช้คู่กัน) ด้วย เช่น make a decision, do homework, take an exam
Part 2: Grammar (ไวยากรณ์) เรื่องไหนต้องแม่น?
พาร์ทนี้คือจุดที่วัดความแม่นยำ ใครพื้นฐานไม่ดีอาจจะเสียคะแนนเยอะค่ะ
4 หัวข้อ Grammar ที่ออกสอบทุกปี:
1. Tenses (กาลเวลา): ออกแน่นอน 100%!
- เน้นมาก: Present Simple (กิจวัตร/ความจริง), Present Continuous (กำลังทำ), Past Simple (อดีตจบแล้ว), Future Simple (will/going to)
- จุดตาย: ต้องจำ Keywords บอกเวลาให้ได้ เช่น yesterday, now, usually, tomorrow, at the moment
2. Subject-Verb Agreement (ประธาน กริยา ต้องสอดคล้องกัน):
- ประธานเอกพจน์ (He/She/It/A cat) -> กริยาเติม s/es (ใน Present Simple)
- ประธานพหูพจน์ (They/We/Cats) -> กริยาไม่เติม s
- จุดหลอก: คำนามที่ดูเหมือนพหูพจน์แต่เป็นเอกพจน์ (เช่น News, Mathematics) หรือประธานกลุ่ม (Everyone, Nobody) ที่ถือเป็นเอกพจน์
3. Pronouns & Possessives (คำสรรพนาม & แสดงความเป็นเจ้าของ):- ต้องแยกให้ได้ว่าเมื่อไหร่ใช้ I/me/my/mine/myself
- ตัวอย่าง: This is my book. (my นำหน้านาม) / This book is mine. (mine อยู่โดดๆ)
4. Question Words & Question Tags:
- Wh-Questions: Who, What, Where, When, Why, How, How much/many (ใช้ถามให้ตรงคำตอบ)
- Question Tags: ประโยคหน้าบอกเล่า -> หลังปฏิเสธ (You are a student, aren't you?)
บทสรุป: เตรียมตัวยังไง?
การเก่งภาษาอังกฤษต้องใช้เวลาสะสมค่ะ ไม่สามารถเก่งได้ในข้ามคืน
- สำหรับ Vocabulary: ให้เริ่มท่องศัพท์วันละ 5-10 คำ ตั้งแต่ ป.5
- สำหรับ Grammar: ให้เน้นทำแบบฝึกหัดเยอะๆ เพื่อให้ชินกับโจทย์หลอก และเข้าใจกฎการใช้อย่างถ่องแท้
ถ้าเก็บ 2 พาร์ทนี้ได้แม่นๆ รับรองว่าคะแนนภาษาอังกฤษจะพุ่งขึ้นจนน่าตกใจแน่นอนค่ะ สู้ๆ นะคะ!
#สอบเข้าม1 #ภาษาอังกฤษสอบเข้าม1 #แนวข้อสอบอังกฤษ #คำศัพท์ภาษาอังกฤษ #Grammarป6 #ติวอังกฤษ #Tutorwa