Last updated: 11 ส.ค. 2568 | 41 จำนวนผู้เข้าชม |
ปลดล็อกสมอง! 7 เทคนิค 'จำศัพท์อังกฤษ' ไวขึ้น 10 เท่า (และไม่ลืมง่าย!)
เคยไหมครับ? ที่เราอุตส่าห์ท่องศัพท์เป็นร้อยเป็นพันคำก่อนสอบ แต่พอสอบเสร็จ... ความรู้ทั้งหมดก็เหมือนจะระเหยหายไปกับอากาศ ท่องวันนี้ พรุ่งนี้ลืม... วนลูปไปอย่างน่าเหนื่อยใจ
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากว่าเราความจำไม่ดี แต่เป็นเพราะเราอาจจะใช้วิธี "ท่องจำ" ที่ฝืนธรรมชาติการทำงานของสมอง สมองของเราไม่ชอบจำข้อมูลที่แยกส่วนและไม่มีความเชื่อมโยง แต่จะจดจำสิ่งที่เป็นภาพ, เป็นเรื่องราว, หรือมีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่รู้อยู่แล้วได้ดีกว่ามาก
วันนี้ Tutorwa-Channel จะมาเผย 7 เทคนิค "ที่เป็นมิตรกับสมอง" ที่จะช่วยให้น้องๆ จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น, อยู่ในความทรงจำได้นานขึ้น, และสนุกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ!
1. เรียนรู้จากรากศัพท์ (Roots, Prefixes, Suffixes)
นี่คือเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดเหมือนการมี "มาสเตอร์คีย์" เพราะการรู้รากศัพท์ 1 ตัว อาจช่วยให้เราเดาความหมายศัพท์ได้เป็นสิบๆ คำ
ตัวอย่าง: รากศัพท์ port แปลว่า "การถือ/การขน"
import = ขนเข้ามา → นำเข้า
export = ขนออกไป → ส่งออก
transport = ขนข้ามไปมา → การขนส่ง
porter = ผู้ที่ถือ/ขนของ → พนักงานยกกระเป๋า
2. สร้าง "ภาพ" ในหัว (Create Mental Images)
สมองจดจำภาพได้ดีกว่าตัวอักษร ลองเปลี่ยนคำศัพท์ที่น่าเบื่อให้กลายเป็นภาพที่ "แปลก" "ตลก" หรือ "น่าเหลือเชื่อ" ในหัว
ตัวอย่าง: คำว่า enormous (ใหญ่โตมโหฬาร)
ลองจินตนาการภาพ "ช้าง (Elephant) ตัวใหญ่ (enormous) จนต้องสวมหมวกที่เป็นหนู (mouse) ตัวปกติ (normal)" ยิ่งภาพแปลกเท่าไหร่ ยิ่งจำแม่นเท่านั้น
3. เชื่อมโยงกับสิ่งที่ "รู้" อยู่แล้ว (Connect to Prior Knowledge)
สร้างสะพานเชื่อมคำศัพท์ใหม่เข้ากับความรู้เดิมของเรา
ตัวอย่าง: คำว่า gorgeous (สวยสง่างาม)
อาจจะนึกถึงดาราที่ชื่อ "จอร์จ" แล้วจินตนาการว่า "จอร์จคนนี้สวย gorgeous มาก" หรือนึกถึงเพื่อนที่สวยมากๆ แล้วท่องว่า "สวย gorgeous เหมือน..." การเชื่อมโยงกับคน, สถานที่, หรือความทรงจำ จะทำให้ศัพท์คำนั้นมีความหมายกับเรามากขึ้น
4. ใช้เทคนิค "Spaced Repetition" (การทวนซ้ำแบบเว้นระยะ)
นี่คือเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยย้ายศัพท์จากความจำระยะสั้นไปสู่ความจำระยะยาว แทนที่จะท่อง 100 คำในวันเดียว ให้แบ่งทบทวนในระยะเวลาที่ห่างขึ้นเรื่อยๆ
วิธีการ:
วันที่ 1: เรียนรู้ศัพท์ใหม่
วันที่ 2: ทบทวนศัพท์ของเมื่อวาน
วันที่ 4: ทบทวนอีกครั้ง
วันที่ 8: ทบทวนอีกครั้ง
เครื่องมือ: ใช้แอปพลิเคชัน Flashcards อย่าง Anki หรือ Quizlet ซึ่งมีระบบ Spaced Repetition ในตัว จะช่วยจัดการการทบทวนให้เราโดยอัตโนมัติ
5. จัดกลุ่มคำศัพท์ (Group Vocabulary)
สมองชอบความเป็นระเบียบ อย่าท่องศัพท์แบบสะเปะสะปะ แต่ให้เรียนเป็นหมวดหมู่
ตัวอย่าง: แทนที่จะท่อง dog, sad, run, table
ให้ท่องเป็นกลุ่ม:
สัตว์: dog, cat, bird, fish
อารมณ์: sad, happy, angry, excited
คำที่มีความหมายเหมือนกัน (Synonyms): big, large, huge, enormous
6. "ใช้" คำศัพท์ทันที (Use It or Lose It)
สมองจะจดจำข้อมูลที่ถูกนำไปใช้งานได้ดีที่สุด
ต้องทำอย่างไร: เมื่อเรียนศัพท์ใหม่มา 5 คำในวันนี้ พยายามหาโอกาส "ใช้" มันทันที
ลองแต่งประโยคสั้นๆ ที่มีคำศัพท์นั้นๆ
ลองใช้ศัพท์คำนั้นในการแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียที่เป็นภาษาอังกฤษ
ลองพูดกับเพื่อนหรือคุณครู
7. เรียนรู้ผ่าน "บริบท" ที่สนุก (Learn Through Fun Contexts)
นี่คือวิธีที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนที่สุด คือการเลิก "มอง" ว่ามันคือการท่องศัพท์
ต้องทำอย่างไร:
เล่นเกมที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ดูภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ชอบพร้อมเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ
อ่านการ์ตูน, เนื้อเพลง, หรือบทความเกี่ยวกับสิ่งที่เราสนใจ (เช่น กีฬา, ดารา, แฟชั่น) เป็นภาษาอังกฤษ
เลิกท่องจำแบบเดิมๆ แล้วลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะครับ เลือกวิธีที่น้องๆ ชอบที่สุดสัก 2-3 วิธี แล้วลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ แล้วจะพบว่าการสร้างคลังคำศัพท์นับพันคำไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!
14 ส.ค. 2568
14 ส.ค. 2568
13 ส.ค. 2568
14 ส.ค. 2568