สรุป Tenses ทั้ง 12 ชนิดในภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างและวิธีใช้

หลังจากเรามีคลังความรู้ทั้งฟิสิกส์และเคมีไปแล้ว ก็ถึงเวลาของวิชาที่สำคัญไม่แพ้กันอย่างภาษาอังกฤษ

บทความนี้จะสรุปไวยากรณ์ที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของภาษาอังกฤษ นั่นก็คือ "Tenses" ทั้ง 12 ชนิด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้การอ่านและการเขียนของเราแข็งแรงและถูกต้องมากขึ้น

สรุป Tenses ทั้ง 12 ชนิดในภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างและวิธีใช้
 
Tense คือรูปแบบของคำกริยาที่แสดงให้เราเห็นว่าเหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด (อดีต, ปัจจุบัน, หรืออนาคต) และมีลักษณะการกระทำเป็นอย่างไร (กำลังทำ, ทำเสร็จแล้ว, ทำเป็นประจำ) การเข้าใจ Tense ทั้ง 12 ชนิด จะช่วยให้เราสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา

วันนี้ Tutorwa Channel จะมาสรุป Tense ทั้งหมดให้เข้าใจง่ายๆ ในหน้าเดียว พร้อมตัวอย่างและหลักการใช้ที่จะทำให้น้องๆ ไม่สับสนอีกต่อไปค่ะ

กลุ่มที่ 1: ปัจจุบัน (Present Tenses)

1. Present Simple Tense (S + V.1)
 
โครงสร้าง: ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s/es)
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงความจริงทั่วไป (Facts): The sun rises in the east. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)
  
• พูดถึงกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ (Habits/Routines): I drink coffee every morning. (ฉันดื่มกาแฟทุกเช้า)
  

• พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด: She is studying right now. (เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ตอนนี้)
• พูดถึงแผนในอนาคตอันใกล้ที่แน่นอนแล้ว: We are flying to Japan next week. (พวกเราจะบินไปญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า)

• พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน: I have lived here for 10 years. (ฉันอาศัยอยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้ว)
• พูดถึงประสบการณ์ (เคย/ไม่เคย): Have you ever been to London? (คุณเคยไปลอนดอนไหม?)

• เน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่ทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน: He has been waiting for the bus for 30 minutes. (เขารอรถบัสมา 30 นาทีแล้ว (และยังคงรออยู่))

กลุ่มที่ 2: อดีต (Past Tenses)

5. Past Simple Tense (S + V.2)

โครงสร้าง: ประธาน + กริยาช่องที่ 2
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต: We visited our grandparents yesterday. (พวกเราไปเยี่ยมปู่ย่าตายายเมื่อวานนี้)
  

Keyword: yesterday, last week/month/year, ago, in 2010

6. Past Continuous Tense (S + was/were + V.ing)

โครงสร้าง: ประธาน + was/were + กริยาเติม ing
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต: I was watching TV when you called. (ฉันกำลังดูทีวีอยู่ตอนที่คุณโทรมา)
  

7. Past Perfect Tense (S + had + V.3)

โครงสร้าง: ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต (เหตุการณ์ที่เกิดก่อนใช้ Past Perfect, เหตุการณ์ที่เกิดทีหลังใช้ Past Simple): The train had already left when I arrived at the station. (รถไฟออกไปแล้วตอนที่ฉันไปถึงสถานี)
  

Keyword: before, after, when, already

8. Past Perfect Continuous Tense (S + had + been + V.ing)

โครงสร้าง: ประธาน + had + been + กริยาเติม ing
ใช้เมื่อไหร่?:

• เน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่ทำมาตลอดก่อนจะเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต: She had been working for 8 hours before she went home. (เธอทำงานมาตลอด 8 ชั่วโมงก่อนที่เธอจะกลับบ้าน)
  

กลุ่มที่ 3: อนาคต (Future Tenses)

9. Future Simple Tense (S + will/shall + V.1)
 
โครงสร้าง: ประธาน + will/shall + กริยาช่องที่ 1
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า, การตัดสินใจ ณ ขณะที่พูด: It's cold. I will close the window. (หนาวจัง ฉันจะไปปิดหน้าต่าง)
  
• การคาดเดา: I think it will rain tomorrow. (ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก)
  

Keyword: tomorrow, next week/month/year, soon

10. Future Continuous Tense (S + will be + V.ing)

โครงสร้าง: ประธาน + will be + กริยาเติม ing
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ที่จะกำลังเกิดขึ้น ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต: This time next week, I will be relaxing on the beach. (เวลานี้ในสัปดาห์หน้า ฉันคงจะกำลังพักผ่อนอยู่บนชายหาด)
  

11. Future Perfect Tense (S + will have + V.3)

โครงสร้าง: ประธาน + will have + กริยาช่องที่ 3
ใช้เมื่อไหร่?:

• พูดถึงเหตุการณ์ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต: By 2025, I will have graduated from university. (ภายในปี 2025 ฉันจะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว)
  Keyword: by..., by the time...

12. Future Perfect Continuous Tense (S + will have been + V.ing)

โครงสร้าง: ประธาน + will have been + กริยาเติม ing
ใช้เมื่อไหร่?:

• เน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่จะดำเนินไปครบระยะเวลาหนึ่ง ณ จุดเวลาในอนาคต: By next month, we will have been living together for a year. (ภายในเดือนหน้า พวกเราจะอาศัยอยู่ด้วยกันครบ 1 ปีแล้ว)
  

การทำความเข้าใจ Tense ทั้ง 12 ชนิดนี้ คือการวางรากฐานแกรมมาร์ที่แข็งแรงที่สุด ลองฝึกแต่งประโยคจากแต่ละ Tense ดูนะครับ/คะ จะช่วยให้จำได้แม่นยำยิ่งขึ้น!

เมื่อแกรมมาร์เป๊ะแล้ว บทความต่อไปเราจะนำเทคนิคการเรียนเรื่องไหนมาฝาก รอติดตามกันได้เลย!