ทบทวน Tenses ขั้นสูง: สรุปวิธีใช้ Perfect Tenses (Present/Past/Future Perfect)

Last updated: 24 มิ.ย. 2568  |  29 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทบทวน Tenses ขั้นสูง: สรุปวิธีใช้ Perfect Tenses (Present/Past/Future Perfect)

หลังจากที่เราแม่น Tenses พื้นฐาน (Simple & Continuous) กันแล้ว ก็ถึงเวลาขยับเลเวลมาทำความรู้จักกับกลุ่ม Tenses ที่ทำให้ภาษาอังกฤษของเราดูซับซ้อนและเป็นมืออาชีพมากขึ้น นั่นก็คือ Perfect Tenses

หัวใจของ Perfect Tenses ทั้งหมดคือ การเชื่อมโยงสองช่วงเวลาเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อดีตกับปัจจุบัน, อดีตกับอดีตที่ไกลกว่า, หรือปัจจุบันกับอนาคต การเข้าใจแนวคิดนี้จะทำให้ Tenses กลุ่มนี้ไม่ยากอย่างที่คิดครับ วันนี้ www.tutorwa-channel.com จะมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ กัน

1. Present Perfect Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
โครงสร้าง: Subject + have/has + V.3
หัวใจการใช้งาน: เชื่อมโยง "อดีต" มาถึง "ปัจจุบัน" ใช้ใน 2 กรณีหลัก:เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน (มักใช้กับ for, since)
เหตุการณ์ในอดีตที่ "ไม่ระบุเวลาชัดเจน" แต่ส่งผลถึงปัจจุบัน หรือเป็นการเล่าประสบการณ์ชีวิต
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: for, since, ever, never, already, yet, just
ตัวอย่าง:I **have lived** in Bangkok **for** 10 years. (ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว - อดีตถึงปัจจุบันก็ยังอยู่)
She **has been** to Korea. (เธอเคยไปประเทศเกาหลี - เล่าประสบการณ์ ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่)
He **has just finished** his homework. (เขาเพิ่งทำการบ้านเสร็จ - ส่งผลคือตอนนี้การบ้านเสร็จแล้ว)

2. Past Perfect Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)
โครงสร้าง: Subject + had + V.3
หัวใจการใช้งาน: เชื่อมโยง "อดีตที่ไกลกว่า" มาถึง "อดีต" ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลง ก่อน อีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต (Tense นี้มักจะไม่มาเดียวๆ แต่จะมาคู่กับ Past Simple)
ตัวอย่าง:The train **had already left** when I **arrived** at the station. (รถไฟได้ออกไปแล้ว ตอนที่ฉันไปถึงสถานี)เหตุการณ์ที่ 1 (เกิดก่อน): รถไฟออกไปแล้ว (had left)
เหตุการณ์ที่ 2 (เกิดทีหลัง): ฉันมาถึง (arrived)
She told me she **had met** him before. (เธอบอกฉันว่าเธอเคยเจอเขามาก่อน)เหตุการณ์ที่ 1 (เกิดก่อน): เคยเจอเขา (had met)
เหตุการณ์ที่ 2 (เกิดทีหลัง): เธอบอกฉัน (told)

3. Future Perfect Tense (อนาคตกาลสมบูรณ์)
โครงสร้าง: Subject + will have + V.3
หัวใจการใช้งาน: เชื่อมโยง "ปัจจุบัน" ไปยัง "จุดเวลาในอนาคต" ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่จะ "เสร็จสมบูรณ์" หรือ "เกิดขึ้นแล้ว" ก่อน ถึงจุดเวลาหนึ่งในอนาคต
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: by... (เช่น by next year, by 8 o'clock), by the time...
ตัวอย่าง:**By next year**, I **will have graduated** from university. (เมื่อถึงปีหน้า ฉันก็จะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว)
**By the time** you arrive, I **will have already cooked** dinner. (เมื่อถึงตอนที่คุณมาถึง ฉันก็คงจะทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว)

เคล็ดลับพิเศษ: กับดักที่พบบ่อย (Present Perfect vs. Past Simple)
นี่คือคู่ที่คนไทยสับสนมากที่สุด! แยกง่ายๆ ด้วย "เวลา" ครับ

Past Simple (V.2): ใช้กับเหตุการณ์ที่จบแล้วในอดีต และ "ระบุเวลาชัดเจน" ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ช่วงเวลานั้นได้จบไปแล้ว

I **visited** Japan **last year**. (ฉันไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว - ปีที่แล้วจบไปแล้ว)
Present Perfect (have/has + V.3): ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ "ไม่ระบุเวลา" หรือการกระทำนั้นยังส่งผลถึงปัจจุบัน

I **have visited** Japan. (ฉันเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น - เล่าประสบการณ์ ไม่ได้บอกว่าไปเมื่อไหร่)
I **have lost** my wallet. (ฉันทำกระเป๋าสตางค์หาย - ผลคือ ตอนนี้ก็ยังไม่มีกระเป๋าสตางค์)
การทำความเข้าใจ Perfect Tenses จะช่วยให้คุณเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนทางเวลาได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้นครับ

เพื่อนๆ ลองใช้ Present Perfect แต่งประโยคเล่าประสบการณ์ของตัวเองในคอมเมนต์ดูสิครับ (เช่น I have never...) และในบทความหน้า เราจะ ปิดท้ายซีรีส์ทบทวน Tenses ด้วยกลุ่ม Continuous Tenses และ Perfect Continuous Tenses ครับ!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้