สรุปวิธีใช้ 4 Tenses หลักที่ต้องรู้ (Present/Past/Future Simple, Present Continuous)

Tenses หรือ "กาล" คือรูปแบบของคำกริยาที่ช่วยบอกเราว่าการกระทำนั้นๆ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็น อดีต, ปัจจุบัน, หรืออนาคต การใช้ Tense ได้อย่างถูกต้องคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การสื่อสารของคุณชัดเจนและไม่ผิดเพี้ยน

แม้ว่าในภาษาอังกฤษจะมีถึง 12 Tenses แต่ในชีวิตประจำวันจริงๆ เราใช้ Tenses หลักๆ อยู่ไม่กี่ Tense เท่านั้น วันนี้ www.tutorwa-channel.com จะมาทบทวน 4 Tenses ที่เป็นพื้นฐานและใช้บ่อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีรากฐานที่แข็งแกร่งกันครับ

1. Present Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + V.1 (ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s/es)
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เรื่องจริงเสมอ" และ "กิจวัตรประจำวัน/นิสัย"
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: always, usually, often, sometimes, every day/week/month
ตัวอย่าง:The sun **rises** in the east. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก - เรื่องจริง)
She **drinks** coffee every morning. (เธอดื่มกาแฟทุกเช้า - กิจวัตร)

2. Past Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + V.2
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว" โดยมักจะมีการระบุช่วงเวลาในอดีตอย่างชัดเจน
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: yesterday, last night/week/year, ...ago (เช่น two days ago)
ตัวอย่าง:I **went** to the cinema **last night**. (ฉันไปดูหนังมาเมื่อคืนนี้)
They **visited** Japan three years **ago**. (พวกเขาไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อสามปีที่แล้ว)

3. Future Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + will + V.1
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" การตัดสินใจที่เกิดขึ้นทันที, การคาดเดา, หรือการให้สัญญา
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: tomorrow, next week/month/year, soon
ตัวอย่าง:I think it **will rain** tomorrow. (ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก - การคาดเดา)
I **will call** you back later. (เดี๋ยวฉันจะโทรกลับหาคุณทีหลัง - การตัดสินใจทันที)

4. Present Continuous Tense
โครงสร้าง: Subject + is/am/are + V-ing
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะที่พูด" หรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ (แม้ไม่ได้กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น)
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: now, at the moment, right now, these days
ตัวอย่าง:Please be quiet. The baby **is sleeping**. (กรุณาเงียบๆ หน่อย ทารกกำลังนอนหลับอยู่)
I **am reading** a very interesting book these days. (ช่วงนี้ฉันกำลังอ่านหนังสือที่น่าสนใจมากเล่มหนึ่งอยู่)

ตารางสรุป 4 Tenses พื้นฐาน
Tense                               หัวใจการใช้งาน                     ตัวอย่างประโยค
Present Simple        เรื่องจริง, กิจวัตร        He **plays** football every weekend.
Past Simple               เกิดและจบในอดีต        He **played** football yesterday.
Future Simple          จะเกิดขึ้นในอนาคต       He **will play** football tomorrow.
Present Continuous  กำลังเกิดขึ้นตอนนี้    He **is playing** football right now.

แน่นอนครับ เดินทางมาถึงบทความที่ 47 กันแล้ว เรายังคงอยู่ในซีรีส์การทบทวนไวยากรณ์ (Grammar) และวันนี้เราจะมาทบทวนเรื่องที่ถือเป็น 'หัวใจ' ของการเล่าเรื่องในภาษาอังกฤษ นั่นก็คือ Tenses ครับ


ทบทวน Tenses พื้นฐาน: สรุปวิธีใช้ 4 Tenses หลักที่ต้องรู้ (Present/Past/Future Simple, Present Continuous)
Tenses หรือ "กาล" คือรูปแบบของคำกริยาที่ช่วยบอกเราว่าการกระทำนั้นๆ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็น อดีต, ปัจจุบัน, หรืออนาคต การใช้ Tense ได้อย่างถูกต้องคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การสื่อสารของคุณชัดเจนและไม่ผิดเพี้ยน

แม้ว่าในภาษาอังกฤษจะมีถึง 12 Tenses แต่ในชีวิตประจำวันจริงๆ เราใช้ Tenses หลักๆ อยู่ไม่กี่ Tense เท่านั้น วันนี้ www.tutorwa-channel.com จะมาทบทวน 4 Tenses ที่เป็นพื้นฐานและใช้บ่อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีรากฐานที่แข็งแกร่งกันครับ


1. Present Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + V.1 (ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s/es)
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เรื่องจริงเสมอ" และ "กิจวัตรประจำวัน/นิสัย"
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: always, usually, often, sometimes, every day/week/month
ตัวอย่าง:The sun **rises** in the east. (พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก - เรื่องจริง)
She **drinks** coffee every morning. (เธอดื่มกาแฟทุกเช้า - กิจวัตร)
2. Past Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + V.2
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว" โดยมักจะมีการระบุช่วงเวลาในอดีตอย่างชัดเจน
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: yesterday, last night/week/year, ...ago (เช่น two days ago)
ตัวอย่าง:I **went** to the cinema **last night**. (ฉันไปดูหนังมาเมื่อคืนนี้)
They **visited** Japan three years **ago**. (พวกเขาไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อสามปีที่แล้ว)
3. Future Simple Tense
โครงสร้าง: Subject + will + V.1
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" การตัดสินใจที่เกิดขึ้นทันที, การคาดเดา, หรือการให้สัญญา
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: tomorrow, next week/month/year, soon
ตัวอย่าง:I think it **will rain** tomorrow. (ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก - การคาดเดา)
I **will call** you back later. (เดี๋ยวฉันจะโทรกลับหาคุณทีหลัง - การตัดสินใจทันที)
4. Present Continuous Tense
โครงสร้าง: Subject + is/am/are + V-ing
หัวใจการใช้งาน: ใช้กับ "เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะที่พูด" หรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ (แม้ไม่ได้กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น)
คำบอกเวลาที่พบบ่อย: now, at the moment, right now, these days
ตัวอย่าง:Please be quiet. The baby **is sleeping**. (กรุณาเงียบๆ หน่อย ทารกกำลังนอนหลับอยู่)
I **am reading** a very interesting book these days. (ช่วงนี้ฉันกำลังอ่านหนังสือที่น่าสนใจมากเล่มหนึ่งอยู่)

ตารางสรุป 4 Tenses พื้นฐาน
Tense
หัวใจการใช้งาน
ตัวอย่างประโยค
Present Simple
เรื่องจริง, กิจวัตร
He **plays** football every weekend.
Past Simple
เกิดและจบในอดีต
He **played** football yesterday.
Future Simple
จะเกิดขึ้นในอนาคต
He **will play** football tomorrow.
Present Continuous
กำลังเกิดขึ้นตอนนี้
He **is playing** football right now.
Export to Sheets

เคล็ดลับพิเศษ: กับดักที่พบบ่อย (Present Simple vs. Present Continuous)
คู่ Tense นี้คนมักจะสับสนมากที่สุด มาดูตัวอย่างเปรียบเทียบกันครับ

I **live** in Bangkok. (ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพ - บอกความจริงถาวร)
I **am living** with my parents for a while. (ฉันกำลังอาศัยอยู่กับพ่อแม่สักพัก - บอกการกระทำชั่วคราว)
What **do** you **do**? (คุณทำงานอะไร? - ถามถึงอาชีพซึ่งเป็นเรื่องจริง/กิจวัตร)
What **are** you **doing**? (คุณกำลังทำอะไรอยู่? - ถามถึงสิ่งที่กำลังทำ ณ ตอนนี้)
การเข้าใจและแยกแยะ Tenses พื้นฐานทั้ง 4 นี้ได้ จะทำให้คุณสามารถเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจครับ

เพื่อนๆ คิดว่า Tense ไหนที่สับสนที่สุด? คอมเมนต์มาแชร์กันได้เลย! และในบทความหน้า เราจะมา ทบทวน Tenses ในระดับที่สูงขึ้นกันต่อกับกลุ่ม Perfect Tenses ครับ!